ช่วงดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ฮือฮาในวงการฟุตบอล หลังจาก 12 สโมสรชั้นนำของยุโรปประกาศการจัดตั้ง ซูเปอร์ ลีก ซึ่งประกอบไปด้วย 6 สโมสรจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาทิ อาร์เซน่อล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ รวมไปถึง 3 สโมสรชั้นนำจาก อิตาลี และ สเปน ซึ่งประกอบไปด้วย เอซี มิลาน, อินเตอร์, ยูเวนตุส, แอตเลติโก มาดริด, บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด

โดยแถลงการณ์ของ ซูเปอร์ ลีก ระบุว่าจะมีอีก 3 ทีมที่พวกเขากำลังดำเนินการเชื้อเชิญให้มาเป็น 15 ทีมที่จะอยู่ในฐานะสโมสรจัดตั้งลีก

แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บาเยิร์น กับ ดอร์ทมุนด์ สองทีมดังของบุนเดสลีกาประกาศว่าจะไม่ร่วมวงกับ ซูเปอร์ ลีก ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่พวกเขาไม่อยากทรยศแฟนบอล นอกจากนั้นตามกฎของสโมสรเยอรมนีบรรดาแฟนบอลจะมีส่วนถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ส่งผลให้พวกเขาสามารถลงคะแนนเสียงคัดต้านได้ในกรณีที่สโมสรดำเนินการผิดไปจากความต้องการ

ทั้งนี้ ในวันเดียวกันยังม ไลป์ซิก ที่ประกาศว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับ ซูเปอร์ ลีก รวมไปถึง บียาร์เรอัล และ สเปน สองทีมมีชื่อของสเปน นอกจากนั้น ปอร์โต้ ทีมดังของโปรตุเกสได้ออกมาปฏิเสธร่วมงานกับลีกใหม่เช่นเดียวกัน

สำหรับ ซูเปอร์ ลีก กำลังถูกต่อต้านย่างหนัก โดยเฉพาะจากทาง ยูฟ่า ที่ออกมาขู่ว่าจะตัดสินสิทธิ์ทั้งสโมสรและนักเตะ รวมไปถึงลีกชั้นนำต่างๆ อาทิ ลา ลีกา, พรีเมียร์ลีก และ เซเรีย อา ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้