เอ็นบีเอ มีบทเรียนจากซีซั่น 2019-20 ที่เจอปัญหาโควิด-19 ระบาดหนแรก จึงไปเช่า วอลต์ ดิสนี่ย์ เวิลด์ เป็นเขตปลอดเชื้อแข่งตั้งแต่เกมจัดอันดับถึง รอบชิงฯ จนได้ แอลเอ เลเกอร์ส เป็นแชมป์ 

แต่ซีซั่นปัจจุบันการรับมือโคโรน่าไวรัสดีขึ้นหลายมิติทำให้ ซิลเวอร์ เผยไม่จำเป็นต้องระวังตัวสูงสุดเหมือนเดิม “ผู้เล่นเรากว่า 70%  ฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อยหนึ่งเข็ม” การให้สัมภาษณ์นิตยสาร ‘ไทม์ส’

https://twitter.com/seanmgregory/status/1387050737813712901

“เราสามารถเรียกร้องให้พวกเขาทั้งหมดเข้ารับการฉีดได้โดยแจ้งผ่านสหภาพผู้เล่น แต่ลีกไม่มีแผนจะทำแบบนั้น”

“เอ็นบีเอทำหน้าที่ตัวเองเพียงส่งเสริมให้นักกีฬาเข้ารับการฉีดวัคซีนหรือแสดงให้ผู้เล่นเราเห็นความจริงต่อประโยชน์เมื่อเข้ารับวัคซีน”

ลีกผ่อนปรนเรื่องการรับวัคซีนไม่ใช่น้อยเมื่อกำหนดให้แต่ละแฟรนไชส์ผู้เล่น/สตาฟฟ์ต้องทำการฉีดวัคซีนโดยสมบูรณ์แบบสองเข็มที่จำนวน 85% 

ส่วนโอกาสที่ลีกจะจัดบับเบิ้ลเพื่อแข่งเพลย์ออฟเหมือนฤดูกาลก่อนนั้น มิสเตอร์ซิลเวอร์ชี้แจงว่าคงไม่เกิดขึ้น เมื่อทุกแฟรนไชส์สมาชิกสามารถรับมือกับโควิดได้ในระดับน่าพอใจ อีกทั้งเริ่มทยอยเปิดให้แฟนกีฬากลับเข้าสนามบ้างแล้ว 

“ณ จุดนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าคงไม่มีบับเบิ้ลเกิดขึ้นในการเพลย์ออฟหรือเอ็นบีเอ ไฟนัลส์” คอมมิสชันเนอร์ลีกเสริม

“เราคงไม่ละสายตาข้างหนึ่งจากความผันแปรที่อาจเกิดขึ้น เพราะคือเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญฐานะที่ปรึกษากังวลอยู่เล็กน้อยเช่นกัน” 

“เวลานี้เราทยอยปล่อยแฟนเข้าสนามมาเกือบ 90% ของความจุ, เราเห็นว่าการตรวจหาผู้เล่นติดไวรัสอัตราส่วนลดลงอย่างเห็นได้ชัด บอกเลยว่าบนโลกนี้มีไม่กี่อองค์กรที่ทำการตรวจมากหนสุดแบบที่เอ็นบีเอทำ ดังนั้นเรามีข้อมูลที่ดีจำนวนมาก แล้วตัวเลขเหล่านั้นคือเหตุผลที่แท้จริงว่าสามารถมองโลกในแง่ดี”

ซิลเวอร์ ดำรงตำแหน่งคอมมิสชันเนอร์ตั้งแต่ปี 2014 ได้รับคำชื่นชมเรื่องภาวะผู้นำ, การตัดสินใจเฉียบขาดและหารายได้เข้าลีกเก่ง อย่างไรก็ตามวิกฤติโควิดทำให้มีเสียงติงมาถึงเขาบ้างโดยเฉพาะการจัดคิวแข่งแน่นฤดูกาลนี้จนผู้เล่นเจ็บหนักหลายราย หรือประเด็นพลิกลิ้นจัดแข่งออล-สตาร์ ทั้งที่แผนเดิมคือระงับหนึ่งปี