สตีฟ เคอร์ เฮดโค้ช โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส หัวเสียกับผลงานลูกทีมต่อเนื่องล่าสุดเกมพ่ายทีมหมดสิทธิ์เพลย์ออฟอย่าง มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 114-126 คะแนน ก็เห็นชัดว่าขาดเทคนิคบ็อกซ์เอาต์ในการแย่งรีบาวน์ด จนแพ้ในการชิงจังหวะสองแบบหลุดลุ่ย
วอร์ริเออร์ส ตั้งใจเร่งเครื่องโค้งสุดท้ายฤดูกาลปกติ แต่กลายเป็นว่าแพ้ต่อเนื่องสองเกมติด อย่างตอนแพ้ ดัลลัส แมฟเวอริคส์ โค้ชเคอร์ ด่าเด็กว่า - พวกมึงเล่นกันเหมือนบาสฯอุ่นเครื่อง -
มาวันนี้ก็ได้หัวร้อนเรื่องรีบาวน์ดน้อยกว่าถึง 34 ครั้ง: 57 ครั้ง สวดไปอีกชุดใหญ่ว่า - เด็กรุ่นใหม่เอาแต่ยืนแอ็กต์ ไม่คลุกวงในเอาก้นดัน เอาแขนกางออกบ็อกซ์เอาต์คู่แข่งแย่งพื้นที่ -
“พวกเด็กเล่นบาสฯรุ่นใหม่มันไม่บ็อกซ์เอาต์กัน เรื่องมันก็เป็นฉะนั้นแล” เคอร์ อ่อนใจ
https://twitter.com/957thegame/status/1387981431989620739/video/1
“ทุกคืนเวลาผมล็อคอินลีก พาส เข้าไปดูไฮไลท์จะเห็นเรื่องเดิมๆ คือผู้เล่นปล่อยคู่แข่งเข้าแย่งพื้นที่จากข้างมือที่เขาไม่ถนัด ซึ่งพวกนั้นคงคิดในใจ -กูรีบาวน์ดลูกนี้ได้แน่ - แล้วทัศนคติแบบนั้นมันเป็นภัยอย่างร้ายแรงในการเล่นบนลีกเอ็นบีเอ”
“ปัญหาคือเวลาคุณเป็นทีมที่ไซส์ผู้เล่นตัวเล็กแบบของเรา เรื่องนั้นมันจะย้อนมาทำร้ายตัวคุณเอง มากกว่าที่คุณไปเล่นงานคู่แข่ง”
เรื่องขัดจิตโค้ชดีกรีแชมป์ 3 สมัยอีกอย่างคือพวกนักบาสฯยุคนี้ถูกสอนพื้นฐานแค่เรื่องความหวือหวาทางทักษะ แต่ขาดทัศนคติช่วยเล่นป้องกันจนอยู่ในวงการไม่ยืด
“ผมทึ่งกับระดับทักษะของผู้เล่นทุกวันนี้ แต่มันมีเรื่องเล็กๆน้อยๆให้ติคือเวลาคุณลงไปช่วยป้องกันลูกโต้กลับ - ทุกคืนเห็นชินตาทางโทรทัศน์ หลายทีมปล่อยคู่แข่งวิ่งผ่านหน้าไปเลย์อัพแบบง่ายๆตอนโดนสวน”
“ทีมเราปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้น ทุกทีมทำแบบนั้น รู้ไหมหากเรื่องที่ว่าเกิดเมื่อ 25 ปีก่อน โค้ชของคุณจะไล่ให้ออกจากสนามแล้วไม่ถูกส่งแข่งอีกเลย”
“แต่ปัจจุบันทุกคนทำแบบนั้น ซึ่งเราฐานะโค้ชจะไปไล่ทุกคนออกจากเกมไม่ได้ นั่นคือความแตกต่างของเกมจากเมื่อก่อนพวกเขาไม่ได้ถูกสอนมาแบบนั้น คิดว่าคงเพราะยุคสมัยซึ่งต่างไป”
วอร์ริเออร์ส คือทีมที่เสียรีบาวน์ดเฉลี่ยต่อเกมมากสุดอันดับสองลีก 47.6 ครั้ง-ต่อ-นัด
