:::     :::

มาห์เรซเหมาเรือย้ำแค้นปารีส10ตัว2-0ลิ่วชิงชปล.

วันพุธที่ 05 พฤษภาคม 2564
1,362
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นสมัยแรกหลังเปิดบ้านย้ำแค้น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-0 ในเกมที่ อังเคล ดิ มาเรีย ได้ใบแดงไล่ออก

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 2 - เปแอสเช (ฝรั่งเศส) 0

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

แมนฯ ซิตี้ ที่ชนะมาก่อน 2-1 กลับมาเล่นในบ้านสอง ส่งตัวหลักลงครบครนำโดย เควิน เดอ บรอยน์ และ ริยาด มาห์เรซ ส่วน เปแอสเช ให้ คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่เพิ่งหายเจ็บเป็นสำรอง หน้าเป้าส่ง เมาโร อีการ์ดี้ ลุยก่อน 

เริ่มเกมมา 7 นาที ผู้ตัดสินเป่าให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้จุดโทษหลังมองว่าบอลโดนแขน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แต่ได้รับสัญญาณวีเออาร์และวิ่งมาเช็กหน้าจอด้วยตัวเองก่อนเปลี่ยนคำตัดสินไม่เป็นจุดโทษเพราะบอลตกบริเวณหัวไหล่ แมนฯ ซิตี้ รอดตัวไป 

พอไม่ได้จุดโทษ เปแอสเช กลับเป็นฝ่ายโดนยิงซะเองในนาที 11 เอแดร์ซอน เปิดบอลยาวขึ้นหน้าให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนจ่ายไปหน้าเขตโทษให้ เควิน เดอ บรอยน์ ยิงติดบล็อกจังหวะแรก บอลปลิ้นเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ วิ่งเข้ายิงมุมแคบด้วยขวาส่งบอลลอดขา เกย์ลอร์ นาวาส ตุงตาข่ายเป็น 1-0 

เปแอสเช เกือบตีเสมอได้ในนาที 16 จากจังหวะเตะมุมที่ อังเคล ดิ มาเรีย เปิดให้ มาร์กินโญส ขึ้นโขกได้เหนือผู้เล่นเจ้าถิ่น ทว่าบอลย้อนชนคานอย่างจัง 

ทีมเยือนได้โอกาสอีกใน 3 นาทีถัดมา เอแดร์ซอน ออกบอลไม่ดี ดิ มาเรีย เก็บตกได้ยิงไกลหน้าเขตโทษ แต่ว่าซัดไม่ตรงกรอบ 

ทีมเยือนลุยต่อเนื่องหวังตีเสมอให้ได้ นาที 36 ได้ลุ้นอีกครั้งจากเกมรุกฝั่งซ้ายที่บอลมาถึง อันเดร เอร์เรร่า ได้กดด้วยซ้ายตรงเขตโทษ บอลพุ่งแรงใช้ได้แต่ว่าเฉียดคานออกหลังไปนิดเดียว

ช่วงทดเจ็บ เรือใบสีฟ้าได้เสียวเช่นกัน มาห์เรซ ได้บอลทางขวาก่อนสับขาแล้วยิงด้วยยัดเสาแรก ทว่าติดเซฟของ เกย์ลอร์ นาวาส บอลจังหวะสองเป็น แบร์นาร์โด้ ซิลวา เก็บได้ก่อนซัดแฉลบข้ามคานออกหลัง ทำให้จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ นำอยู่ 1-0 

ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นก่อนในนาที 54 เดอ บรอยน์ ไหลให้ โฟเด้น หลุดเดี่ยวไปยิงติดเซฟของ นาวาส ที่ออกมาบล็อกได้เยี่่ยม อย่างไรก็ตามจังหวะนี้ โฟเด้น ถูกจับล้ำหน้าอยู่ดี

ทีมเยือนตอบโต้คืนในนาที 56 เนย์มาร์ ได้ลุยเข้าเขตโทษก่อนเลี้ยงรอจังหวะแล้วยิงด้วยขวาเน้นๆ ทว่า โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แบ็กซ้ายซิตี้บล็อกเอาไว้ได้หวุดหวิด 

แมนฯ ซิตี้ ขยับนำ 2-0 ในนาที 63 จากการเล่นโต้กลับอันเฉียบขาด เควิน เดอ บรอยน์ ไหลออกซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น ปาดเข้ากลางเลยไปเสาไกล ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาจ่อๆ ด้วยซ้ายเข้าไป เกย์ลอร์ นาวาส สุดปัญหาที่จะป้องกันได้ 

สถานการณ์ของ เปแอสเช เลวร้ายลงเมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกอาร์เจนไตน์ได้ใบแดงไล่ออกในนาที 69 หลังเจตนาย่ำเท้า แฟร์นันดินโญ่ ที่ข้างสนาม

แมนฯ ซิตี้ เกือบได้อีกลูกในนาที 77 จากจังหวะที่ ฟิล โฟเด้น เลี้ยงจี้เข้าใส่ เพรสแนล คิมเพมเบ้ ก่อนกดด้วยซ้ายระยะไกล บอลพุ่งผ่านมือ นาวาส ได้แล้วแต่ว่าชนเสาอย่างน่าเสียดาย

ท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ ปิดเกมได้สบายพร้อมทยอยถอดตัวหลักอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ฟิล โฟเด้น ออกไปพัก และมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เชซิส และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงเล่น 

จากนั้นจบเกม แมนฯ ซิต้ ย้ำแค้นเอาชนะ เปแอสเช ที่เหลือ 10 คนไปได้ 2-0 ทำให้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 4-1 รอพบผู้ชนะระหว่าง เชลซี กับ เรอัล มาดริด ที่จะเตะนัดสองในวันพุธนี้  


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้ : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดีอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, อิลคาย กุนโดกาน - ริยาด มาห์เรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น 

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง : เกย์ลอร์ นาวาส - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มาร์กินโญส, เพรสแนล คิมเพมเบ้, อับดู ดิยัลโล่ - อันเดร เอร์เรร่า, เลอันโดร ปาเรเดส, มาร์โก แวร์รัตติ - อังเคล ดิ มาเรีย, เมาโร อีการ์ดี้, เนย์มาร์ 

ผู้ตัดสิน : บยอร์น ไคเปอร์ส (เนเธอร์แลนด์ส) 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด