เจมส์ ถือว่า ‘ซีพี 3’ เป็นเหมือนพี่-น้องในวงการ ถูกยกให้เป็นแก๊ง ‘บานาน่า โบ้ท’ ร่วมกับ ดเวย์น เหวด และ คาร์เมโล่ แอนโธนี่ โดยไม่ว่า 1 ใน 4 คนนี้มีสุดยอดพิธีการโอกาสพิเศษใด ต่อให้บุกป่าฝ่าดง คนที่เหลือก็จะพยายามยกโขยงไปให้กำลังใจกันถึงขอบสนาม 

แต่หากเส้นทางอาชีพถูกขีดต้องมาปะทะฝีมือกันทาง ‘แอลบีเจ’ จำเป็นต้องตัดญาติ ตัดมิตร เป็นการชั่วคราว 

“เปรียบไปการเจอกับ คริส พอล เหมือนเวลาเราดวลทั้งซีรี่ส์กับผู้เล่นแบบ ราจอน รอนโด, ดวล เดรย์มอนด์ กรีน - พวกเขาอยู่เข่งเดียวกันคือนักบาสฯไอคิวสูง และเป็นการห้ำหั่นที่ดุเดือดในเวลาเดียวกัน มันเหมือนกันเลย” เจมส์ กล่าวกับ ‘สเป็คตรัม สปอร์ตส์ เน็ตเวิร์ก’

https://twitter.com/SpectrumSN/status/1395940432576598019

“ในอดีตทุกๆครั้งที่ผมต้องสู้กับ รอนโด ผมตระหนักเลยว่ามีแค่แผน-เอ มีแค่มุกเดิมไม่ได้ คือในใจเราต้องคิดเลยว่าจะเอามุกไหนมาเพิ่มอีก”

“เจอกับ เดรย์มอนด์ ก็เหมือนกัน ในทุกๆครั้งที่ต้องสู้กับ วอร์ริเออร์ส - ดังนั้นผมมีประสบการณ์รับมือกับสองคนนั้นมาบ้างจึงเป็นประโยชน์เมื่อต้องสู้กับ ‘ซีพี 3’ เพราะทราบถึงระดับความเข้มข้นของการแข่งขัน รวมถึงรู้ดีหมอนั่นกึ๋นบาสฯเด็ดขนาดไหน” 

เลอบรอน ยังพูดถึงการเตรียมความพร้อมไม่เคยเอาแชมป์ไปอวดเบ่งว่าตัวเองได้แหวนแชมป์แล้ว 4 วง แต่ พอล ยังมือเปล่า เพราะเคารพฝีมือของกันและกันบนคอร์ท ส่วนนอกสนามหากโม้มากแบบไม่เกรงใจก็เสียมิตรภาพดีๆ 

“คิดว่าทุกคนก็ทราบผมเป็นคนแบบไหน การหักหลังเพื่อนมันไม่ใช่นิสัย” ฟอร์เวิร์ดวัย 36 ปีเสริม 

“ผมไม่มานั่งโอ่เรื่องความสำเร็จของตัวเอง หรืออะไรทำนองนั้น มิตรภาพของเรามันสำคัญกว่า ดังนั้นผมไม่ใช่คนประเภทคุยโว - กูได้แชมป์มากี่ทีแล้ว? - มันบ้องตื้นมาก โดยส่วนตัวนิสัยโอ้อวดมันโดนซุกไว้ลึกมาก ดังนั้นคิดว่าตัวเองคงไม่ทำมันออกมา”

เลเกอร์ส - ซันส์ เพราะร่วมดิวิชั่น แปซิฟิก จึงดวลกันแล้วสามหนเป็น ฟีนิกซ์ ผลงานดีกว่าชนะ 2 จาก 3 ในซีรี่ส์ฤดูกาลปกติ