รายงานจาก ‘เมล ออนไลน์’ ว่าโอกาสเห็นคนคู่คิดนี้ไม่มีแล้วเพราะอยากแยกกันดัง แต่ก็แง้มประตูโอกาสกลับมาสุมหัวทีมสตาฟฟ์เมื่อถึงสถานการณ์ที่เหมาะสมไว้เล็กๆ

ทั้งสองคนความสัมพันธ์ส่วนตัวถือว่าซี้ย่ำปึ้กเพราะเป็นเพื่อนกันมากว่า 20 ปี รับใช้สโมสร เชลซี ต้นทศวรรษ 2000 แล้วพอเปลี่ยนมาจับอาชีพโค้ชก็ยังผนึกกำลังกันต่อ 

https://twitter.com/MailSport/status/1396939075685425156

โดยย้อนไปเมื่อซัมเมอร์ 2018 ที่ แลมพาร์ด ได้รับการแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ช ดาร์บี้ ระดับ ชปช.ก็เรียกให้ มอร์ริส วัย 42 ปีที่ตอนนั้นเป็นโค้ชอะคาเดมี่ เชลซี ลาออกจากงานเดิม เพื่อมาร่วมสตาฟฟ์ที่ไพรด์ พาร์ค ฐานะมือขวา แล้วปรากฏว่าเข็น ‘แกะเขาเหล็ก’ทีมงบประมาณจำกัดไปแพ้ในนัดชิงฯ เพลย์ออฟ เลื่อนชั้นต่อ แอสตัน วิลล่า 

ความโดดเด้งนี้เองทำให้ เชลซี กล้าแต่งตั้งตำนานกองกลางอย่าง แลมพาร์ด เป็นเจ้านายใหญ่ก่อนเข้าฤดูกาล 2019-20 ที่เผชิญข้อจำกัดห้ามเสริมทัพหนึ่งรอบตลาด แต่ยังสามารถเอาตั๋วชปล.สำเร็จ

อย่างไรก็ตามกุนซือวัย 42 ปีผลงานน่าผิดหวังต้นซีซั่นนี้ทั้งที่ทีมจับจ่ายกว่า 230 ล้านปอนด์ จึงถูกไล่ออกเมื่อม.ค. 2021 พร้อมสตาฟฟ์ แล้วเตะฝุ่นถึงตอนนี้ 

สำหรับ แลมพาร์ด โดนมองเป็นตัวเต็งรับงาน คริสตัล พาเลซ แทน รอย ฮอดจ์สัน ด้าน มอร์ริส คงต้องสะสมบารมีก่อนฐานะเจ้านายใหญ่ทีมลีกรอง