รายงานจากสำนักข่าว ‘เอพี’ เมื่ออังคารที่ผ่านมา (ท้องถิ่น) ว่าเจ้าภาพขัดตาทัพอย่างบราซิลเลือกนคร รีโอ เดอ จาเนโร และอีกสามเมืองหลักจัดแข่งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอเมริกาใต้ ต่อให้มีผู้พิพากษาศาลสูงร้องขอคำชี้แจงจากปธน.บอลโซนาโร ต่อการตัดสินใจเหนือความคาดหมายนี้ 

ผู้พิพากษาท่านนั้นคือ ริคาร์โด เลวานดอฟสกี้ ที่รับสำนวนการฟ้องร้องจากฝ่ายค้านอย่างพรคคแรงงานถึงความเหมาะสมในการรับเป็นเจ้าภาพ ทั้งที่ชาติตัวเองเผชิญวิกฤติผู้ติดเชื้อสะสม/ผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 ลำดับต้นๆของโลก 

อย่างไรก็ตามมิสเตอร์เพรซิเดนท์ ชาอีร์ มองเรื่องเสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ เนื่องจากเป็นการเรียกความเชื่อมั่นจากคนในชาติว่ารับมือการแข่งขันกีฬาระดับทวีปได้ รวมถึงตอกหน้าเพื่อนบ้านคู่อริ อาร์เจนตินา เรื่องไร้ความสามารถ

สำหรับเมืองจัดแข่งทางบราซิลเลือกกรุงบราซิเลีย, นคร รีโอ เดอ จาเนโร, เมืองซิวอาบา และ โกเยียน่า ตามคำยืนยันของ อเลฮานโดร โดมิงเกซ ปธ.สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ 

https://twitter.com/AP_Sports/status/1399874684720721920

“ที่ประชุมสภาผ่านมติเห็นชอบให้ บราซิล ตอบรับการเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์ โกปา อเมริกา 2021” ปธน.บอลโซนาโร ยืนยันทางแถลงการณ์ 

คาดหมายว่าสนาม มาเน่ การ์รินช่า ที่กรุงบราซิเลียจะถูกใช้เตะเปิดสนาม แล้วตามธรรมเนียมเตะชิงชนะเลิศที่ มาราคาน่า นคร รีโอ เดอ จาเนโร

ถือเป็นความกล้าแบกรับเรื่องเสี่ยงอย่างมากของทุกฝ่ายเพราะตัวเลขผู้ติดโควิด-19 ในบราซิลเพราะถึงตอนนี้สะสมกว่า 16.5 ล้านคน มากสุดอันดับสามโลก หรือจำนวนผู้เสียชีวิตรวมถึง 462,000 คน มากสุดอันดับสองเช่นกันรองจากสหรัฐฯ และตายรายวันเกือบพันศพสูงสุดลำดับสองเช่นกันต่อจากอินเดีย 

แต่เพราะบราซิลมีศักยภาพในการรับมือไวรัสเมื่อรัฐบาลกำลังเร่งฉีดวัดซีน รวมถึงประสบการณ์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่, เสถียรภาพทางการเมือง, ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ กอนเมโบล ต้องหวังพึ่ง 

สำหรับมาตรการด้านสุขภาพ/ความปลอดภัยเบื้องต้นคือนักเตะ, สตาฟฟ์ทุกคนต้องเข้าการฉีดวัดซีนโควิด, ไม่ให้แฟนบอลเข้าชมเกมรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนรอบลึกๆจัดขึ้นทะเบียนสำหรับผู้สนใจแต่ต้องมีหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และเว้นระยะห่างระหว่างผู้ชมในสนาม