คลิปเปอร์ส เพลย์ออฟซีซั่นนี้แบบสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกซึ่งตามหลังคู่แข่ง 0-2 เกมซีรี่ส์ ตลอดสองรอบแรก แต่ยังพลิกสถานการณ์เข้ามาประเดิมชิงฯคอนเฟอเรนซ์นับจากก่อตั้งแฟรนไชส์ 51 ปี 

พอถึงชิงฯตะวันตก ทีมของโค้ชลูก็ออกตัว 0-2 เช่นเดิม แม้ตีไข่แตกได้ในเกมสามซีรี่ส์ แต่นัดต่อมาปราชัยคารังจนคอพาดเขียง 1-3 เกม เท่ากับว่าตลอดคิวแข่งที่เหลือห้ามพลาดอีก 

แน่นอนว่าปัจจัยรอบนี้ต่างจาก 2 รอบที่ผ่านมาเพราะ คาไว เลนเนิร์ด ฟอร์เวิร์ดตัวเก่งเจ็บเข่าไร้ส่วนร่วมตลอดสี่นัด ปล่อยภาระแก่ พอล จอร์จ แบกทีมหลังแอ่น จนโดนต้อนมาเกือบสุดกระดาน 

อย่างไรก็ตามเจ้าของฉายา ‘บิลล์ เบลิชิค แห่งวงการเอ็นบีเอ’ ยังสั่นสู้เพราะครั้งหนึ่งเคยคุม คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ชิงฯเอ็นบีเอ 2016 ตามหลัง โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส 1-3 เกมซีรี่ส์ยังแซงคว้าแชมป์ได้ จึงศรัทธาสาามารถฉายหนังม้วนเดิม 

“ก็ต้องมองไปชนะทีละเกมก่อน - นั่นคือระบบความคิดของเรา ณ เวลานี้” โค้ชวัย 44 ปีแสดงความเห็น 

https://twitter.com/NotoriousOHM/status/1409053795477123076

“เราปราบ ยูท่าห์ แจซ มาโดยเฉพาะสี่เกมติด ดังนั้นการพลิกสถานการณ์อีกมันยังเป็นไปได้”

ด้าน ‘พีจี 13’ แม้ตัวเองแบกทีมรุก-รับจนแทบหมดแรงแต่ก็ไม่อยากขอความเห็นใจจาก เลนเนิร์ด ซึ่งเข้ามาชมเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (ท้องถิ่น) เพราะหากอาการที่เข่ายังไม่สมบูรณ์ 100% ควรหลีกเลี่ยงความเสี่ยง 

“สภาพร่างกายของ คาไว เป็นอย่างไรคงไม่สามารถตอบแทนเขาได้ เพราะหากยังไม่ 100% เราก็ไม่อยากให้หมอนั่นแข่ง” จอร์จ เสริม 

“ผมมองว่ามันคือการทำไปกวนใจทีมเมต เนื่องจากสภาพร่างกายในระยะยาวของหมอนั่นสำคัญกว่าสิ่งที่เราเผชิญตอนนี้”

“คงไม่สามารถประเมินว่าอาการของเจ้าตัวเจ็บขนาดไหน หรือพวกคุณผู้สื่อข่าวทราบแล้วแต่ไม่ยอมแจ้งเรา - ก็อย่างที่ผมเรียนไปสภาพร่างกายของ เลนเนิร์ด สำคัญสุดเหนืออื่นใด”

ฟอร์เวิร์ดวัย 29 ปียืนยันไม่ได้ร่วมเดินทางกับคณะ คลิปเปอร์ส เพื่อแข่งเกมห้ายัง ฟีนิกซ์ ซันส์​ อารีน่า

โดยประวัติเพลย์ออฟ เอ็นบีเอ ทีมที่ตามหลัง 1-3 เกมในระบบหาผู้ชนะ 4 จาก 7 เกมซีรี่ส์ สามารถพลิกสถานการณ์เฮแค่ 5% (13-ต่อ-251 ซีรี่ส์) ส่วนจำเพาะแค่ในรอบชิงฯ คอนเฟอเรนซ์มีเพียง 7% (4-ต่อ-52 ซีรี่ส์)