ประธานเทคนิคชลบุรี รับความพ่ายแพ้ของ "ฉลามจูเนียร์" ต่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขาดลอย 0-8 ในศึกฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการโค้ก คัพ 2017 รอบรองชนะเลิศ นั้นนอกเหนือจากการทำให้รู้สึกตื่นจากฝันเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว ยังรู้สึกผิดหวังในทัศนคติของเด็กชุดนี้ ที่ไม่แสดงอาการร้อนหนาวใดๆ แถมบางคนยังยิ้มแย้มแจ่มใสทั้งที่แพ้คู่ต่อสู้แบบหมดสภาพ
หลังเกมที่ ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านพ่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-6 หลังจากบุกไปแพ้มาก่อนในนัดแรก 0-2 ส่งผลให้ "ปราสาทสายฟ้าจูเนียร์" เข้าชิงชนะเลิศกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นปีที่่ 4 ติดต่อกันในรายการ โค้ก คัพ 2017 "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคจ.ชลบุรี ยอมรับว่าเด็กปั้นของตนเองขาดทั้งความเร็ว, ความแข็งแกร่ง และพลัง ซึ่งทำให้ตนกลับมาสู่โลกแห่งความจริงว่าการสร้างอคาเดมี่หลังจากนี้จะต้องมีการปรับกลยุทธ์เพราะที่ผ่านมาค่อนข้างใส่ใจในเรื่องทักษะมากกว่า แต่ที่สำคัญคือเรื่องวินัยที่เด็กชุดนี้มีปัญหาทั้งในและนอกสนาม ทั้งดื่มเหล้า, สูบบุหรี่, หนีเที่ยว และเกือบคิดจะวางมือเพื่อกลับไปทำงานที่ญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นบ้านหลังที่สองของตัวเอง
นอกจากนี้ทัศนคติของเด็กรุ่นนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้มากที่สุด เพราะหลังเกมแต่ละคนยังเดินยิ้มหัวร่อต่อกระซิกกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เพิ่งแพ้คาบ้านตัวเองถึง 0-6 จึงได้เรียกนักเตะมาอบรมชนิดจัดหนัก เนื่องจากการเป็นผู้แพ้ที่แสดงความไม่รู้ร้อนรู้หนาวแบบนี้ออกมาจะไม่ทำให้เกิดการพัฒนาเพื่อกลับมาชนะในอนาคต
"ผมรู้สึกแย่ที่สุดคือ พอเกมจบนักบอลยังเดินหัวเราะกันออกมาจากสนาม ทัศนคติแบบนี้มันใช้ไม่ได้ ผมอยากเห็นเด็กร้องไห้ หรือเจ็บใจที่แพ้ เพราะความรู้สึกแบบนั้นจะทำให้เกิดพลังที่จะหาวิธีกลับมาเอาชนะให้ได้ในอนาคต แพ้ก็ต้องรู้ว่าแพ้เพราะอะไร ชนะก็ต้องรู้ว่าชนะเพราะอะไร ถ้าทำเหมือนทองไม่รู้ร้อนแบบนี้ผมว่าไม่มีทางพัฒนา และผมคงจะต้องกลับไปทบทวนกลยุทธ์ในการทำอคาเดมี่ที่ต้องเน้นในเรื่องวินัยให้มากกว่านี้ ใครออกนอกลู่นอกทางผมจะไล่ออกจากทีมทันที ผมยอมรับว่าท้อจนมีความคิดที่จะเลิกทำบอลเด็กในไทย แล้วไปอยู่ที่ญี่ปุ่นซึ่งเหมือนเป็นบ้านอีกหลังของผมดีกว่า" โค้ชเฮงกล่าว
