โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผจก.ทีม แมนฯ ซิตี้ ไม่รับปากว่าห้าผู้เล่นชุดใหญ่ที่มีปัญหาบาดเจ็บหนัก-เบาต่างกันไปนั้นจะสามารถผ่านความฟิตลงแข่งกับ เชลซี เพื่อท้าชิงอันดับหัวตารางไหวหรือไม่? ซึ่งคนโอกาสน้อยสุดน่าจะเป็นปราการหลัง อายเมริค ลาปอร์กต์
แม้เมื่อวันพฤหัสฯมีภาพ โรดรี้ เอร์นานเดซ, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, จอห์น สโตนส์ และ ลาปอร์กต์ สามารถกลับมาซ้อมที่ เอติฮัด แคมปัส แต่สภาพของเซนเตอร์แบ็กทีมชาติสเปนซึ่งเดี้ยงบริเวณโคนขาหนีบหนักหนากว่าชาวบ้านคงยากฟื้นทัน
นอกจากนั้นบอสวัย 50 ปียังต้องรอทดสอบความฟิตกองกลาง อิลคาย กุนโดกัน จึงยากฟันธงในเวลานี้ว่า 11 ตัวจริงเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ จะเป็นใครบ้าง
“เราคงมีตัวเจ็บอีก 2-3 คน พวกเขาเหล่านั้นสามารถซ้อมได้นิดๆหน่อยๆไปตั้งแต่มื้อวันพฤหัสฯ แล้วไว้วันแข่งค่อยตัดสินใจใครเล่นได้-เล่นไม่ไหว"การเปิดปากในงานแถลงความพร้อม
https://twitter.com/footballdaily/status/1441399077619396611
"ไม่ใช่พวกเขาทั้งหมดจะพร้อมเป็นตัวเลือก เพราะบางคนมีคิวกลับมาซ้อมมื้อวันศุกร์ แต่เราจำเป็นต้องดูอาการตอบสนองด้วย ก็ไว้เช้าวันแข่งน่าจะเห็นภาพชัดขึ้น"
“การเตรียมตัวพบ เชลซี ก็เหมือนที่ทำก่อนเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน (เสมอ 0-0) หรือนัดก่อนๆหน้านั้น"
"พยายามอ่านทางว่าคู่แข่งจะมาไม้ไหน สิ่งใดบ้างที่เราทำแล้วได้ผลเวลาเจอ 'สิงห์บลูส์'ของ ทูเคิ่ล ดังนั้นๆทุกนัดคือความท้าทาย, โอกาสใหม่สำหรับทีมเพื่อพัฒนาและทำให้ดีกว่าเดิม"
"มันไม่เหมือนการพบกันรายการ เอฟเอ คัพ หรือพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หนที่ผ่านๆมา แน่นอนการสู้กันบน แชมเปี้ยส์ ลีก นั้นคือเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ เราจะพยายามเรียนรู้จากความผิดพลาด"
"จากนี้คือการแข่งขันรายการใหม่ เป็นอีกหนึ่งนัดที่เพิ่มมา เราเตรียมพร้อมเกมที่จะถึงเหมือนสู้ทีมแกร่ง แล้วมารอดูว่าจะทำให้ดีกว่าเดิมได้ไหม"
"นั่นคือระบบความคิดที่เรามี แล้วมันก็เหมือนเดิมในเกมที่จะเจอ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ชปล.) ต่อด้วย ลิเวอร์พูล จากนั้นเบรกทีมชาติ"
เฮด-ทู-เฮดของ กวาร์ดิโอล่า เมื่อเจอ ทูเคิ่ล ตอนคุม เชลซี เรียกว่าผูกปิ่นโตแพ้ทั้งรายการ เอฟเอ คัพ รอบรองฯ, บอลลีก และหนักสุดนัดชิงฯ ชปล.
