ประเด็นเรื่องวัคซีนป้องกันไวรัสมรณะมีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนสุดลิ่มทิ่มประตูอย่าง แคนเตอร์ หรือ คาร์ล-แอนโธนี่ ทาวน์ส เซนเตอร์ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 

อีกพวกคือปฏิเสธการฉีดทุกรูปแบบก็เช่น คายรี่ เออร์วิ่ง แห่ง บรู้กลิน เน็ตส์ และ แบร้ดลี่ย์ บีล การ์ดออล-สตาร์ วอชิงตัน วิเซิร์ดส์ 

นั่นทำให้ เจมส์ วางตัวลำบากจึงให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่าตัวเองฉีดแล้ว ส่วนนักกีฬาแต่ละคนต่างก็มีความเห็นต่างกันไป ก็เอาที่สะดวกใจไม่ก้าวก่าย 

“ผมคิดว่าทุกคนมีทางเลือกในใจตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าถูกต้องสำหรับตัวเองและครอบครัว" การตอบคำถามสื่อฯในมีเดีย เดย์ 

อย่างไรก็ตามคำตอบปลายเปิดแบบนั้นไม่ถูกใจ แคนเตอร์ เพราะเชื่อว่าหาก เจมส์ เป็นตัวตั้งตัวตีสนับสนุนในพี่-น้องยัดห่วงฉีดวัคซีน นอกจากจะทำให้ลีกเพิ่มจำนวนผู้เข้ารับเกราะป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 95% ที่เป็นอยู่เวลานี้แล้ว 

ยังจะกระตุ้นคนอเมริกันที่ยังลังเล ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็เหนื่อยน้อยลง 

“ตอนผมได้ยินคำตอบแบบนั้นก็ไม่พอใจมากๆ น่าขบขันจริงๆ” การให้สัมภาษณ์ ‘ซีเอ็นเอ็น’

https://twitter.com/EnesKanter/status/1444656879041454080?s=20

“ทั้งที่ความจริง เลอบรอน เจมส์ คือหนึ่งในหน้าตาของลีกนี้ ดังนั้นเขาควรเป็นคนแรกที่ออกมาพูดว่า -ทุกคนฟังนะ ผมเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว และอยากส่งเสริมให้พวกเราทำกันด้วย ทั้งคนในชุมชนผม, ทุกๆคน, แฟนบาสฯ, ไม่ใช่แฟนบาสฯหรือแฟนกีฬา รับวัคซีนกันให้หมด- หากทำแบบนั้นจะช่วยรักษาชีวิตคนอีกมากได้” 

“แต่ผมก็หวังว่าหมอนั่นคงสามารถศึกษาหาความรู้แก่ตัวเองเกี่ยวกับการรับวัคซีน, สร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนในคนรอบตัวไปฉีดสำเร็จ” 

แคนเตอร์ กับ เจมส์ มีประวัติไม่กินเส้นกันมานานโดยครั้งหนึ่งเคยฟัดกันบนคอร์ทเมื่อปี 2017 และอีกหลายๆหนที่วงในสัญชาติเติร์กออกมามาเรียกร้องให้เอ็มวีพี 4 สมัยแสดงจุดยืนเต็มตัวอย่ากั๊ก