ฟีฟ่า ได้ออกมาอธิบายถึงการใช้งานเครื่องตรวจจับจังหวะล้ำหน้าซึ่งเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ (semi-automated offside technology) โดยถือเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ของประธานฟีฟ่าที่จะนำเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้ในเกมลูกหนังระหว่างปี 2020-2023

ทั้งนี้ ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า หัวหน้าผู้ตัดสินของฟีฟ่ากล่าวว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นการทดลองครั้งสำคัญ และเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลในอนาคต

"เทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์ทั้งในแง่ของการเตรียมตัวก่อนลงสนามและการตัดสินใจระหว่างการแข่งขัน" อดีตผู้ตัดสินชื่อดังชาวอิตาเลียนระบุ

"ในเหตุการณ์จังหวะล้ำหน้า การตัดสินใจเกิดขึ้นหลังจากมีการวิเคราะห์ไม่ใช่แค่เพียงตำแหน่งของนักเตะเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการมีส่วนร่วมในการเคลื่อนที่ของพวกเขา 

"เทคโนโลยี (ในวันนี้และอนาคต) สามารถวาดเส้นขึ้นมาได้แต่การประเมินถึงการเข้าไปแทรกแซงการเล่นหรือปัจจัยของฝ่ายตรงข้ามยังคงอยู่ในดุลยพินิจของผู้ตัดสิน"

โดยทาง โยฮันเนส ฌฮลซ์มุลเลอร์ หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านฟุตบอลระบุว่าทีมงานจะทำการติดตั้งกล้องให้อยู่ใต้หลังคาสนามแข่ง ซึ่งข้อมูลต่างๆ จะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการก่อนจะมีการพิจารณาตรวจจับการเล่น พร้อมฉายภาพช้าแบบทันท่วงทีหากมีจังหวะปัญหา