เกมที่สนามสต๊าด อ็อมนิสปอร์ต เดอ ดูอาล่า ไอวอรี่โคสต์มี เอริก ไบยี่, ฟร้องค์ เกสซีเย่, เซบาสเตียง อัลแลร์ และ นิโกล่าส์ เปเป้ เป็นตัวชูโรง

ด้าน อียิปต์ นั้นแน่นอนสตาร์อันดับหนึ่งอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ออกสตาร์ทตัวจริง โดยมี โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ จาก อาร์เซน่อล คุมแดนกลาง

เกมในครึ่งแรก ทั้งสองทีมแทบจะทำอะไรกันไม่ได้เลย จะมีจังหวะจะแจ้งก็นาทีที่ 36 เมื่อ โม ซาลาห์ จ่ายทะลุไปให้ มอสตาฟา โมฮาเหม็ด ได้หลุดไปยิงด้วยขวา แต่ บาดร้า ซ็องกาเร่ ยังปัดออกหลังไปได้

ครึ่งหลัง นาทีที่ 70 ไอวอรี่โคสต์ น่าเฮเหลือเกิน เมื่อ อิบราฮิม ซ็องกาเร่ โหม่งชงไปให้ เซบาสเตียง อัลแลร์ ได้โขกต่อระยะเผาขน แต่ โมฮาเหม็ด เอล เชนาวี่ เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 84 ไอวอรี่โคสต์ มีโอกาสทองอีกครั้ง กิสแล็ง โกน็อง จ่ายไปให้ วิลฟรีด ซาฮา ได้ยิงด้วยซ้าย แต่ เอล เชนาวี่ ก็เซฟได้เยี่ยม และจังหวะนี้เองทำให้นายทวารอียิปต์บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเอา โมฮาเหม็ด อาบู กาบาสกี้ ลงมาเฝ้าเสาแทน

จบ 90 นาทีทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมก็มีโอกาสทั้งคู่ แต่นาทีที่ 120 อียิปต์ เกือบปล่อยหมัดน็อก เมื่อ โม ซาลาห์ ตบบอลจากสุดเส้นกลับมาให้ เทรเซเก้ต์ ได้ยิงกลางประตู แต่ดันซัดไปตรงตัว ซ็องกาเร่ รับไว้ได้

หมด 120 นาทีก็ยังเสมอกัน 0-0 เหมือนเดิม ต้องไปตัดสินกันในช่วงดวลจุดโทษ

ช่วงดวลเป้า ปรากฎว่าเป็น อียิปต์ ที่ยิงแม่นกว่าเอาชนะไป 5-4 โดยคนเดียวที่พลาดของ ไอวอรี่โคสต์ ก็คือ เอริก ไบยี่ กองหลังจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ยิงไปติดเซฟ กาบาสกี้

อียิปต์ จะเข้าไปพบ โมร็อกโก ต่อไปในรอบ 8 ทีมสุดท้าย