เกมตัดเชือกในฤดูกาล 2008/09 นัดแรกของทั้งสองทีมจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ที่คัมป์ นู ก่อนที่จะกลับมาสู้กันที่ลอนดอนโดยทาง เชลซี ออกนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 9 

จากนั้นทัพสิงห์บลูส์มีปัญหากับการตัดสินของ โอเฟรโบ ทั้งในจังหวะที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา โดน เอริก อบิดัล ดึงล้มในกรอบก็ไม่ได้จุดโทษ รวมถึงจังหวะที่ นิโกล่าส์ อเนลก้า เกี่ยวบอลไปโดนมือของ เคราร์ด ปีเก้ ในกรอบก็ไม่เป่าให้ ก่อนที่ อันเดรส อีเนียสต้า จะมายิงประตูตีเสมอในช่วงทดเจ็บ

หลังจากนั้นยังมีจังหวะที่ มิเชล บัลลัค ซัดเต็มข้อบอลพุ่งโดนแขน ซามูเอล เอโต้ ที่กางออกมาขวางในกรอบก็ยังโดนปฎิเสธ สุดท้าย เชลซี ต้องตกรอบไปด้วยกฎประตูทีมเยือน หลังจบเกมนั้นบรรดานักเตะสิงห์บลูส์พากันเข้าไปถล่มการทำหน้าที่ของเชิ้ตดำชาวนอร์เวย์ ถึงขนาดที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา สบถคำหยาบใส่กล้องทีวีเลย

"หลังจากจบเกม ผมไม่ได้พูดคุยกับนักฟุตบอล ผมออกจากสนามอย่างมีเกียรติและไปที่ห้องแต่งตัว" โอเฟรโบ รำลึกความหลัง

"มันไม่ใช่วันที่ดีที่สุดของผม แต่ความผิดพลาดเกิดขึ้นในกับผู้ตัดสิน"

"บางวันคุณไม่ได้ทำหน้าที่ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น ผมไม่ได้ภูมิใจกับผลงานในวันนั้น"

"ผมจำได้ตอนที่กลับโรงแรม ผู้คนที่นั่นไม่เป็นมิตรกับเราเลย เราต้องดูแลตัวเองในวันนั้นและวันถัดไป"

"ผมรับผิดชอบกับการตัดสินในวันนั้น ถ้าผมตัดสินอีกอบ่างบางทีเชลซีอาจจะได้เข้าชิงชนะเลิศ"