ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงเบอร์หนึ่งทีมชาติไทย ทำไปแล้ว 1 ประตูในเจลีก และอีก 1 ประตูในฟุตบอลถ้วยเจลีกคัพ โดยได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกเกมให้กับ ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า ในฟุตบอลลีก ทว่าถูกกุนซือ ฮิโรชิ โจฟุกุ เปลี่ยนตัวออกทุกนัดเช่นกัน เริ่มจากเกมแรกที่ทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร 1-0 ถูกเปลี่ยนออกนาที 84, จากนั้นในเกมบุกชนะ อุราวะ เรดส์ 2-1 ถูกถอดนาที 56, นัดที่3 บุกชนะ คาชิม่า อันท์เลอร์ 1-0 เปลี่ยนออกนาที 60 และเกมล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 18 มี.ค. ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกนาที 56 ในเกมเปิดบ้านเสมอ จูบิโล่ อิวาตะ 0-0 

ในเรื่องนี้ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล แสดงความคิดเห็นผ่าน THSPORT ว่าสาเหตุที่โค้ชเปลี่ยนตัวผู้เล่นออกค่อนข้างเร็วนั้นมีหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแท็กติก, ผลงานในสนามไม่เป็นไปตามเป้า หรือเพราะแสดงอาการเหนื่อยล้าให้เห็น แต่อีกหนึ่งเหตุผลที่ต้องยอมรับความเป็นจริงคือการเป็นผู้เล่นต่างชาติจะถูกคาดหวังผลงานมากกว่าผู้เล่นญี่ปุ่น โดยเฉพาะการเป็นนักเตะไทยที่ถูกมองว่าชื่อชั้นฟุตบอลเป็นรอง และเมื่อไหร่ที่ทำผิดพลาดหรือเล่นไม่ออกก็มักจะถูกมองเป็นเรื่องใหญ่กว่าแข้งท้องถิ่น

"มีหลายเหตุผลที่โค้ชจะเปลี่ยนผู้เล่นออกเร็ว โดยเฉพาะถ้าเปลี่ยนออกทุกเกม อาจจะเป็นเรื่องของแท็กติกที่ต้องการให้แดนกลางครอบครองบอลมากกว่าคู่แข่ง ก็เลยถอดกองหน้าและเสริมกองกลาง บางเกม มุ้ย อาจจะถูกกองหลังประกบจนทำอะไรไม่ได้ ในขณะที่กองหน้าคนอื่นยังมีประโยชน์กับเกมมากกว่า หรืออาจจะเพราะมีอาการบาดเจ็บหรือแสดงอาการเหนื่อยล้าให้เขาเห็น"

"แต่เชื่อได้เลยอย่างหนึ่งว่าการเป็นผู้เล่นต่างชาติ เวลาทำอะไรผิดพลาดทีนึงจะถูกมองเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่โตกว่านักเตะท้องถิ่นทำเยอะ โดยเฉพาะถ้าเป็นประเทศที่เขามองว่าชั้นเชิงฟุตบอลด้อยกว่า เทียบง่ายๆ กับไทยลีก สมมตินักเตะอาเซียนเล่นผิดพลาด เพื่อนร่วมทีมก็อาจไม่มั่นใจที่จะส่งบอลให้แล้ว แต่ถ้าเป็นผู้เล่นไทยพลาดกันเองกลับมองเป็นเรื่องปกติ ที่ญี่ปุ่นหรือที่ไหนในโลกก็เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ก็คือต้องพยายามผิดพลาดให้น้อยที่สุด และทำผลงานให้เพื่อนร่วมทีมและโค้่ชเชื่อมั่นให้ได้ แต่ผมว่ามุ้ยเขารู้อยู่แล้วล่ะว่าควรต้องปรับปรุงเรื่องอะไรบ้าง" โค้ชเฮงกล่าว