ทัพลูกหนัง "สิงห์สะพานปลา" ร.ร.วัดสุทธิฯ ฉลองแชมป์ฟุตบอล 7 คน "เมืองไทยประกันภัย" รุ่น 18 ปีของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผจก.ทีมชาติไทยอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางศิษย์เก่าและครูบาอาจารย์ในอดีตนับพันคน "ผอ.ยะ" ดร.อัฏฐผล ถิรพรพงษ์ศิริ ผอ.โรงเรียนฯ สุดปลื้มเห็นความสำเร็จนักเตะที่ช่วยกันต่อสู้มาตลอด วิงวอนศิษย์เก่าช่วยสนับสนุนงบประมาณด้วย อนาคตอาจตั้ง "กองทุนทีมฟุตบอล" ขึ้นมา และใครที่ช่วยเหลือโรงเรียนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า     

ความเคลื่อนไหวทีมลูกหนังขาสั้นโรงเรียนวัดสุทธิวราราม หรือ "สิงห์สะพานปลา" ที่ก่อตั้งมานานกว่า 30 ปี หลังประสบความสำเร็จด้วยการเฉือนชนะ ร.ร.นวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา หวุดหวิด 5-4 จนคว้าแชมป์ฟุตบอลนักเรียน 7 คนรายการ "เมืองไทยประกันภัย ไทยแลนด์คัพ 2023" รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการลูกหนังทีมชาติไทย (ช้างศึก) ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีทีมฟุตบอลชั้นนำจากสถาบันต่างๆเข้าร่วมชิงชัยถึง 128 ทีม 

ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาภายในงานคืนสู่เหย้าชาวสุทธิวรารามปี 2566 "เพื่อนกัน รักกัน  ตลอดไป SUTHI Back 2 School" ที่มี นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา นายกสมาคมนักเรียนเก่าสุทธิวราราม เป็นประธานจัดงานฯ และ "ผอ.ยะ" ดร.อัฏฐผล ถิรพรพงษ์ศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ในฐานะคณะกรรมการจัดงานฯ ร่วมกันจัดงานดังกล่าวขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลงแล้ว โดยมีบรรดาศิษย์เก่าอดีตครูบาอาจารย์และนักเรียนปัจจุบันร่วมงานอย่างคับคั่งนับพันคน ทั้งนี้ภายในงานยังได้มอบรางวัลให้กับศิษย์เก่าดีเด่นจำนวน 26 รางวัล ประกอบด้วย นักธุรกิจ, ทหาร, นักการเมือง, นายแพทย์ และ เจ้าของธุรกิจส่วนตัว ที่ประสบความสำเร็จจากรั้วชมพูขาวเขียวแห่งนี้ 

จากนั้นเข้าสู่ไฮไลท์สำคัญการฉลองแชมป์ "แม่วี" อ.ทวี พิมสาร ในฐานะผู้ก่อตั้งทีมลูกหนัง "สิงห์สะพานปลา" มาตั้งแต่ยุคแรกเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว ขึ้นไปมอบถ้วยรางวัลแชมป์ให้กับ "ผอ.ยะ" ดร.อัฏฐผล พร้อมด้วย นายโสฬร อุดมสมปอง ประธานชมรมศิษย์เก่าฯ, "โค้ชอ๋อน" มรรคพล วงศ์กมลลาไสย และ "โค้ชโอ๋" สัมพันธ์ มิตรแก้ว ในฐานะผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ท่ามกลางความดีใจและเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง ก่อนที่ ดร.อัฏฐผล เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและชมรมศิษย์เก่าฟุตบอลสุทธิวรารามทุกคน ทั้งที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังความสำเร็จในการช่วยเหลือน้องๆมาตลอดหลายปี ส่วนตัวรู้สึกดีใจและปลาบปลื้มกับนักเตะชุดนี้เป็นอย่างมาก ที่ได้แสดงศักยภาพออกมา โดยเฉพาะ "ทีมเวิร์ค" ที่ตัวเองเน้นยำมาตลอด จนประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ระดับประเทศหลังรอคอยมานานพอสมควร กว่าพวกเราจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องเอาชนะอุปสรรคต่างๆหลายอย่าง ไม่เหมือนโรงเรียนอื่นไล่ตั้งแต่ สนามฝึกซ้อมที่มีแต่พื้นปูน, นักเตะที่มีจำนวนจำกัดไม่หลากหลายเหมือนสถาบันอื่น, งบประมาณการสนับสนุนที่มีจำกัด ฯลฯ แต่นักเตะก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เราทำได้ พร้อมจะสร้างผลงานที่ดีต่อไปอีกเรื่อยๆ ตราบใดที่ตัวเองยังเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนนี้อยู่

อย่างไรก็ตามส่วนตัวอยากจะขอวิงวอนและความเมตตาไปถึงเหล่าบรรดาศิษย์เก่าทั้งหลาย ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานแล้ว ให้มาช่วยกันสนับสนุนทีมฟุตบอลโรงเรียนวัดสุทธิฯกันด้วย เนื่องจากนักกีฬาที่เรามีอยู่กว่า 100 คน ในแต่ละปีทั้งรุ่นอายุ 14, 16 และ 18 ปี ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของอาหารการกินและสวัสดิ์การต่างๆเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาเราก็ใช้อย่างจำกัดและพยายามให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทีม นับว่า ยังโชคดีที่ได้ นายสุรชัย พรชัยอุดมศักดิ์ นายกสมาคมกีฬาลอนทเนนิสฯ อดีตศิษย์เก่ารุ่น 67 ช่วยเหลืองบประมาณมากว่าหนึ่งล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว แต่ถ้าเราต้องการหวังผลความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวมองว่า น่าจะมีการตั้งกองทุนสำหรับทีมฟุตบอลโรงเรียนวัดสุทธิฯขึ้นมาโดยเฉพาะ พร้อมแจงรายรับรายจ่ายแบบตรงไปตรงมาให้ทุกคนได้รับทราบ ที่สำคัญหากหน่วยงาน-องค์กรใด หรือใครเข้ามาสนับสนุนในส่วนนี้ ทางโรงเรียนจะมีหนังสือขอบคุณเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า ที่ผ่านมาโรงเรียนเราไม่เคยเก็บเงินนักฟุตบอลโควต้าช้างเผือกแม้แต่บาทเดียว มีแต่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กๆจากต่างจังหวัดเหล่านี้มีวิชาความรู้ติดตัวไปตลอด เพื่อเป็นคนดีให้กับสังคมต่อไป 

ขณะที่ นายโสฬร อุดมสมปอง ประธานชมรมศิษย์เก่าฯ ได้กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณน้องๆนักเตะทุกคนที่ร่วมกันต่อสู้จนก้าวมาสู่แชมป์ได้ รวมไปถึง ดร.อัฏฐผล ถิรพรพงษ์ศิริ, "แม่วี" อ.ทวี พิมสาร และ นายพิพัฒน์ นายกสมาคมนักเรียนเก่าฯ ที่มอบเงินก้อนแรกนำร่องจำนวน 50,000 บาทเมื่อหลายปีก่อน หากไม่มีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนแล้วคงยากที่พวกเราจะประสบความสำเร็จ แม้ว่า อดีตที่ผ่านมาโรงเรียนเราจะเคยมีนักเตะติดทีมชาติทั้งชุด "ดรีมทีม" และทีมชาติชุดใหญ่อยู่หลายคนก็ตาม ซึ่งสมัยนั้นมี นายเฉลียว พุ่มไสว คอยเป็นผจก.ทีมให้ทั้งทุ่มเทกำลังกายและกำลังทรัพย์เต็มที่ แต่ทุกอย่างมันย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลวันเวลา แต่วันนี้พวกเราทุกคนได้กลับมาช่วยเหลือโรงเรียนและน้องๆอีกครั้ง ดังนั้นการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะศิษย์เก่ามากมายที่มีความพร้อมในด้านต่างๆ น่าจะให้ความสำคัญกับกีฬาฟุตบอลที่สร้างชื่อเสียงให้กับสถาบันบ้าง ล่าสุดนักเตะชุดนี้ในทีมเรา 2 คน คือ นายวาริศ ปัตตานี และ นายสิรภพ นิลแสง ผ่านการทดสอบติดทีมชาติยุดเยาวชนไม่เกิน 17 ปีเรียบร้อยแล้ว และในอนาคตจะมีนักเตะคนอื่นๆอีกก้าวไปสู่แข้งเยาวชนทีมชาติมากขึ้น ขณะเดียวกันนักฟุตบอลจากโรงเรียนเราสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาดังมีคุณภาพมากมายทั้ง จุฬาฯ, ม.ธรรมศาสตร์, ม.มหิดล และ มศว.ประสานมิตร       

สำหรับรายชื่อนักฟุตบอลมีดังนี้ สวิท ไกลถิ่น (ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม), บรรลังก์ สมภารเพียร, ณัฐพล ทองอินหนู, ธนนนท์ คุณพิมพ์, สิริภพ นิลแสง, กิตติศักดิ์ เหล่าสูงเนิน, สิวัฒน์ หลีใบ, พสุมนต์ ภักดี, วุฒิชัย เอียดวารี (นักฟุตบอล-ดาวซัลโว ยอดเยี่ยม), ฤทธากรณ์ จารุพงศ์พุฒิกรณ์, ยศพนต์ ผิวเกลี้ยง, ภวัตชัย ภูดวง, รพีภัทร สุดาจันทร์, อานัส มะหนำ, ภูมิพรหมมินทร์ ฉิมสาหร่าย, ดร.อัฏฐผล ถิรพรพงษ์ศิริ ผจก.ทีม, สัมพันธ์ มิตรแก้ว (ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม), พฤทธิคุณ สุนทรนนท์ กับ มรรคพล วงศ์กมลลาไสย ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน