โอลิมปิก มาร์กเซย ทีมรองจ่าฝูงส่ง อเล็กซิส ซานเชซ เป็นตัวหลักในแดนหน้า ขณะที่ มงต์เปลลิเย่ร์ ที่ไม่แพ้ใครมา 6 นัดติดมี เอลี่ วาอี ยืนหน้าเป้า

เริ่มเกมมา 12 นาที กองเชียร์เจ้าถิ่นต้องเซ็งเมื่อทีมรักโดนนำก่อนจากการเล่นโต้กลับของ มงต์เปลลิเย่ร์ ที่ เอลี่ วาอี ตวัดบอลให้ อาร์กโนด์ นอร์ดีน แตะต่อเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาผ่าน เปา โลเปซ ตุงตาข่าย

ทว่านาที 22 ทีมเยือนต้องเปลี่ยนตัวคนแรกเมื่อ กีกี้ คูยาเต้ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่งตัวเก๋าอย่าง มามาดู ซาโก้ ลงสนาม

มาร์กเซย มาได้จุดโทษในนาที 44 หลังจากผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์ชี้ขาดว่า มามาดู ซาโก้ ทำแฮนด์บอลในจังหวะบล็อกลูกยิงของ อเล็กซิส ซานเขซ ก่อนเป็น มัตเตโอ เก็นดูซี่ รับหน้าที่ยิงเสียบเสาซ้ายมือตัวเองเป็น 1-1

ช่วงทดเจ็บ มงต์เปลลิเยร์ เกือบนำจากจังหวะที่ โชริส โชตาร์ ชิงโหม่งตัดบอลได้ก่อนเป็น เอลี่ วาอี รับบอลแล้วพลิกยิงเต็มข้อหน้าเขตโทษ บอลถากเสาออกหลังไปนิดเดียว ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1 

ครึ่งหลังนาที 66 ทีมเยือนเกือบได้อีกครั้งเมื่อ สเตฟี่ มาวีดีดี้ กระชากบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายหักให้ วาห์บี้ คาซรี่ วิ่งมายิงด้วยขวาเน้นๆ ทว่าซัดหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย

มาร์กเซย มีโอกาสบ้างในนาที 74 รุสลัน มาลีนอฟสกี้ จ่ายเร็วให้ อเล็กซิส ซานเชซ ได้บอลระยะ 35 หลา แต่ใจร้อนรีบยิงทันทีก่อนบอลลอยโด่งข้ามคาน

อีก 3 นาทีถัดมา ทีมเยือนตอบโต้คืนในจังหวะที่ เอลี่ วาอี จ่ายบอลให้ สเตฟี่ มาวีดีดี้ ยิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่ว่าไม่เข้ากรอบ  

ช่วงเวลาที่เหลือ มาร์กเซย ไม่สามารถทำประตูชัยได้ทำให้จบเกมได้เพียงเสมอ มงต์เปลลิเย่ร์ 1-1