ความเคลื่อนไหวก่อนการแข่งขันฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2022/23 สัปดาห์ที่ 25 ที่ ทรู สเตเดียม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง เปิดบ้านพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูง ในวันอังคาร ที่ 4 เมษายน 2566 เวลา 19.00 น.

ปราสาทสายฟ้า ชนะมาต่อเนื่องและหากชนะเกมนี้อีกก็จะเป็นแชมป์ทันที โดยจะต้องเจอกับ แข้งเทพรองจ่าฝูง ที่ชนะมาสามเกมติด

โดย ธชตวัน ศรีปาน หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า "เราก็ได้ทำการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ก็มีแมตช์ซ้อมกับแมตช์ฟิตระหว่าง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ว่านักเตะที่ไม่ได้ลงเล่นก็คงเป็น เฮแบร์ตี้ ที่ติดโทษแบน ส่วนคนที่เหลือก็พร้อมและฟิต แต่ต้องรอเช็คอาการสภาพร่างกายนักเตะที่กลับมาจากทีมชาติ เราให้เขาพักเพิ่มอีก 1 วัน ก็ต้องรอเช็คพรุ่งนี้อีกครั้ง ทั้ง มานูเอล ทอม เบียร์ห, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หรือ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ว่าเจ็บล้าหรือแมตช์ฟิตมากพอไหม ก็ต้องเช็คอีกครั้ง ส่วน ทศวรรษ ก็ได้เล่น 45 นาที ก็น่าจะพร้อม รวมๆ ก็รอเช็คนักเตะจากทีมชาติก่อนมาพร้อมแค่ไหน ถ้าพร้อมก็คงเป็นตัวหลัก"

"เรื่องบุรีรัมย์ จะเป็นแชมป์ ไม่ใช่ประเด็น เพราะว่าเราเองมีความคาดหวังหรือเป้าหมายในแต่ละเกม ว่าเราอยากได้สามแต้มทุกเกม ยิ่งการได้เล่นในบ้านเจอกับทีมใหญ่อย่างบุรีรัมย์ เราต้องการทำผลงานพิสูจน์ตัวเองในเรื่องศักยภาพทีม เราก็คาดหวังและทำเต็มที่เพื่อเก็บสามแต้มในบ้านให้ได้"

"เราก็ต้องมองรายละเอียด ที่เป็นจุดอ่อน พยายามแก้ไข ความผิดพลาดในแต่ละครั้งอย่างเกมก่อนที่เราเสียฟรีคิกและเป็นประตู เพราะนักเตะสับสนในการประกบตัวผู้เล่น มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกมนั้น ต้องเปลี่ยนแท็คติกระหว่างเกมและเข้าทางบุรีรัมย์ รายละเอียดที่เป็นปัญหา หรือในเกมรุกเองที่เราต้องการมีศักยภาพให้ดีขึ้น ประสบการณ์จากสองเกมที่ผ่านมาเราก็พยายามแก้ไข เพื่อให้ต่อกรกับบุรีรัมย์ ได้ดีขึ้น"

"เรื่องสภาพอากาศก็เลื่อนเวลาซ้อมให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ จากแต่ก่อนซ้อมสี่โมง ก็ปรับเวลาเป็นห้าโมง เพื่อให้มันเย็นลง และไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักเตะ โปรแกรมการซ้อมของเรายังคงเดิมเพื่อรักษาสภาพเรื่องของร่างกายและแท็คติกไว้ ถือว่าพยายามปรับให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมบ้านเรา"

"เรายังไมได้มองเรื่องการเป็นที่สอง เราอยากเก็บสามแต้มทุกนัดให้ได้ต่อเนื่อง จนกว่าที่จะเห็นว่าแต้มมันขาดจริงๆ เราถึงมั่นใจได้ แต่ตอนนี้แต่ละนัดที่เราลงเล่นก็มีความหมายทุกนัด ก็มีสามแต้มทุกนัดเพื่อให้เราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของผู้บริหารและแฟนบอล"

"เราพยายามเล่นในสไตล์ของเราแก้ไขข้อผิดพลาด ที่เป็นจุดอ่อน และขาดศักยภาพ ให้มันดีขึ้นและมีความพร้อมในการเจอกับบุรีรัมย์ ส่วนเขาเราบอกตั้งแต่ก่อนเจอบอลถ้วยแล้วว่า ต้องยอมรับว่าบุรีรัมย์ แข็งแกร่งจริงๆ ทั้งเรื่องตัวนักเตะและศักยภาพทีมด้วย และผลงานที่ออกมา เขาคือทีมที่ดีที่สุดในตอนนี้ เกมนี้เป็นเกมศักดิ์ศรีเราก็ต้องชนะบุรีรัมย์ ในบ้านให้ได้"

ด้าน บริพัทธ์ สูนรอด ผู้จัดการทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า "ความพร้อมตอนนี้นักเตะที่เจ็บอย่าง โกรัน เคาซิช, นฤบดินทร์, พรรษา ก็เริ่มกลับมาซ้อมกับทีมแล้ว ส่วนนักเตะทีมชาติก็ต้องเช็คอีกครั้งว่ามีความล้าหรือไม่ ส่วนคนอื่นก็สมบูรณ์ และหายเจ็บและไม่น่ามีปัญหาอะไร"

"ก็มีโอกาสได้คุยกับโค้ช เขาก็ไม่ได้มองเรื่องชนะแล้วเป็นแชมป์ บุรีรัมย์ ต้องมองเกมต่อเกม ก็อยากเก็บสามแต้มให้ได้ทุกเกมมากกว่า ส่วนการที่แบงค็อก ไม่มี เฮแบร์ตี้ ก็ไม่ได้ง่ายขึ้นเพราะว่านักเตะ แบงค็อกคนอื่นๆก็มีความสามารถและเป็นทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว เราจะไม่ประมาท คนที่จะมาแทนเฮแบร์ตี้ ก็มีความสามารถเหมือนกัน เราจะพยายามเตรียมทีมของเราให้ดีที่สุดเพื่อรับมือ"

"สำหรับบุรีรัมย์ การโรเตชั่นไม่น่าจะส่งผล เพราะว่าตอนที่ทีมชาติไปเตะฟีฟ่า เดย์ เราก็เตรียมนักเตะคนอื่นให้พร้อมเพื่อทดแทนคิดว่าไม่มีผลกระทบกับทีม ผมคิดว่าสองเกมที่ผ่านมา เป็นอดีตไปแล้ว เกมปัจจุบันวันอังคารนี้ เราต้องมองสถานการณ์เฉพาะหน้า สองเกมที่ผ่านมาคือผ่านไปแล้ว เราต้องเตรียมทีมให้ดีที่สุดให้พร้อมสำหรับเกมวันอังคารนี้"

"เราก็มีการซ้อมต่อเนื่อง หลังสงกรานต์ เราก็มีโปรแกรมที่ถี่ ก็พยายามดูแลรักษาร่างกายนักเตะให้ดีที่สุด และมีการหมุนเวียนนักเตะ และส่งคนที่สมบูรณ์ที่สุดลงสนาม แบงค็อกเป็นทีมที่มีทีมเวิร์คที่ดี แม้ว่าสองเกมที่เราเจอกับพวกเขาเราจะชนะ แต่เราต้องมองปัจจุบัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ เราต้องรับมือให้ดีที่สุด"