วันที่ 10 เมษายน 2561 ที่ชั้น 3 โรงแรมอัลมิรอซ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด ได้จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตสโมสร (คลับ ไลเซนซิ่ง) ให้กับสโมสรใน โตโยต้า ไทยลีก (ไทยลีก 1) และ M-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2) ขึ้นเป็นวันที่สอง โดยหัวข้อหลักของการสัมมนาวันนี้เน้นไปที่เรื่องการเงิน

การสัมมนาครั้งนี้มีคุณลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายกฝ่ายบัญชีและการเงินสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, มร. เบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายคลับไลเซนซิงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และรองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, คุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, มร.นิโคลาส เปาเลียน เคราร์ด ที่ปรึกษาฝ่ายการเงินของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี และตัวแทนสโมสรในโตโยต้า ไทยลีก (ไทยลีก 1) และ M-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2) ร่วมสัมมนา

โดย  มร. เบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายคลับไลเซนซิงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวถึงภาพร่วมการสัมมนาครั้งนี้ว่า "สองวันที่ผ่านผมรู้สึกพอใจและดีใจมาก เพราะสโมสรให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีหัวข้อการสัมมนาเรื่องการเงินโดยเฉพาะ เราใช้เวลาทั้งวันเพื่อให้ความรู้เรื่องนี้ให้กับสโมสร ซึ่งถือเป็นเรื่องดี นอกจากนี้ยังมีวิทยากรจากสมาคมฯ, ไทยลีก และเอเอฟซี มาให้ความรู้ด้วย หัวข้อการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญมากไม่แพ้หัวข้ออื่นๆ เราอยากให้เน้นเป็นพิเศษ เพราะเป็นเรื่องละเอียด ผมคิดว่าทุกสโมสรจะได้ประโยชน์ และมีแนวทางที่จะทำเอกสารต่างๆ ให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้นครับ" 

ด้านคุณสุรเดช อนันทพงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวถึงการสัมมนาครั้งนี้ว่า "การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดีที่สมาคมฯ และ ไทยลีก จัดอบรมเรื่องคลับไลเซนซิงให้กับสโมสรในโตโยต้า ไทยลีก (ไทยลีก 1) และ M-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2) ในแต่ละปีสโมสรคงมีเรื่องสงสัย โดยเฉพาะเรื่องเอกสารที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้ช่วยให้สโมสรมีความเข้าใจมากขึ้น เพื่อจะได้เตรียมทำเอกสารให้ถูกต้องตามที่ เอเอฟซี และสมาคมฯ กำหนดไว้"

"ซึ่งปีนี้มีการแยกหมวดหมู่อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องการเงิน ซึ่งเป็นโหมดที่แต่ละสโมสรยังไม่เข้าใจเท่าที่ควร การแยกออกมาสัมมนาเรื่องการเงิน 1 วันเต็มๆ ถือเป็นเรื่องดี ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่การเงินของแต่ละสโมสรได้มีความรู้ และจัดเตรียมเอกสารได้ตามที่สมาคมฯ และไทยลีกกำหนดไว้ เพื่อให้เอกสารมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นครับ"