ครั้งล่าสุดที่ ชบาแก้ว พบกับ ฟิลิปปินส์ คือการแข่งขันฟุตบอลหญิงในซีเกมส์ ที่มาเลเซียที่ผ่านมา โดยผลปรากฏว่า ไทยชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 นอกจากนี้ในเรื่องของลำดับฟีฟ่า แรงกิ้ง ไทยเองก็อยู่เหนือกว่าฟิลิปปินส์ถึง 42 ลำดับ

“ถึงแม้ว่าลำดับของเรากับฟิลิปปินส์จะห่างกัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในสนามอย่างแน่นอน เพราะทราบมาว่า ฟิลิปปินส์เปลี่ยนผู้เล่นหลัก 5-6 จากการแข่งขันในซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีดึงนักเตะลูกครึ่งที่เล่นอยู่ที่ลีกต่างประเทศมา แม้จะเป็นลีกมหาวิทยาลัยก็ตาม แต่เชื่อว่าเค้าจะมีความแข็งแกร่งและมากไปด้วยประสบการณ์ ยกตัวอย่าง แบบมิรันดา (สุชาวดี นิลธำรงค์) มาซ้อมกับทีมเพียงไม่กี่วัน แต่ฟอร์มการเล่นไม่ธรรมดา ยอมรับว่าเราก็กดดัน เพราะมันนัดเดียว ไม่มีใครอยากไปเพลย์ออฟ ดังนั้น เราต้องห้ามประมาทฟิลิปปินส์เด็ดขาด” นวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวเริ่ม

“นอกจากนี้เรายังได้ข่าวดีคือ นักเตะที่ป่วยอย่าง กัญญาณัฐ เชษฐบุตร รวมถึงตัวหลักอย่าง รัตติกาล ทองสมบัติ หายดีและลงฝึกซ้อมกับเพื่อนได้แล้ว ซึ่งเราพยายามดูแลให้ทุกคนให้พร้อมที่สุดสำหรับเกมนัดสุดท้าย น้ำ (รัตติกาล ทองสมบัติ) เขาก็อยากลงสนามช่วยทีม ก็เป็นงานของโค้ชหนึ่งที่ต้องประเมินอีกครั้ง ว่าพร้อมมากน้อยแค่ไหนสำหรับเกมในสถานการณ์ที่เราจะพลาดไม่ได้”

ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จะต้องทำการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดสุดท้ายพบกับ ฟิลิปปินส์ ที่สนาม คิง อับดุลลอฮ์ ที่สอง ในวันที่ 12 เมษายน 2561 (เช้าวันที่ 13 เมษายน 2561) เวลา 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี และ บักกาบู ทีวี