ที่ เฟลตินส์ อารีน่า เจ้าถิ่นราชันสีน้ำเงิน วางแนวรุกอย่าง มาร์โก เปียช่า กับ กีโด้ บวร์กชตัลแลร์ ล่าตาข่าย

ทางด้าน อินทรีแดงดำ ใช้งาน เควิน พรินซ์-บังเต็ง จับคู่กับ ลูก้า โยวิช ในแดนหน้า

เริ่มเกมมาเพียง 7 นาที แฟร้งค์เฟิร์ต มีโอกาส เควิน พรินซ์-บังเต็ง โขกย้อนเข้าเขตโทษให้ ลูก้า โยวิช สับไกส่งบอลติดเซฟ ราล์ฟ เฟห์มันน์ 

จากนั้นในนาทีที่ 32 เจ้าบ้านพลาดโอกาสทอง กีโด้ บวร์กชตัลแลร์ ลอยตัวโขกบอลกำลังจะเสียบใต้คานแต่ ลูคัส ฮราเดชกี้ ปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

ครึ่งหลังนาทีที่ 67 ชาลเก้ พลาดโอกาสทอง ดาเนี่ยล คาลิจิวรี่ ไหลบอลมาให้ กีโด้ บวร์กชตัลแลร์ หลุดไปยิงแต่ ลูคัส ฮราเดชกี้ ยังออกมาเซฟเอาไว้ได้ทัน

นาทีที่ 75 ทีมเยือนออกนำ 1-0 จากเตะมุมที่ โจนาธาน เด กุซมัน เปิดจากทางซ้ายให้ ลูก้า โยวิช สอดมากระโดดชาร์จเปลี่ยนทางบอลเสียบตาข่ายไม่เหลือ

จากนั้นในนาที 79 อินทรีแดงดำต้องเหลือ 10 คนเมื่อ เกลสัน แฟร์นานเดส ไปสอย เลออน โกเร็ตซ์ก้า แบบน่าเกลียดเลยโดนแดงไล่ออกไป 

จบเกม แฟร้งค์เฟิร์ต บุกชนะ ชาลเก้ 1-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปดวลกับ บาเยิร์น มิวนิค ต่อไป 

โดยนัดชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ที่ โอลิมเปียสตาดิโอน กรุงเบอร์ลิน