ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

รอบรองชนะเลิศ นัดแรก 

วันอังคารที่ 24 เมษายน 2561

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 5 - โรม่า (อิตาลี) 2

สนาม : แอนฟิลด์ (ลิเวอร์พูล, อังกฤษ)

ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์ กัปตันทีม พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีม ส่วน 3 ประสานแดนหน้ายังเป็น  โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ 

  ส่วน โรม่า ของกุนซือ ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ ได้ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ และ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ กัปตันทีม กลับมาลงสนาม หลังจากได้พักในลีกกัลโช่ เซเรีย อา นัดล่าสุดที่บุกต้อน สปาล 3-0 

เริ่มเกมมา 5 นาทีแรก หงส์แดงได้ลุ้นก่อน โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ผ่านบอลให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลผ่านหน้าประตูออกไป

นาที 15 อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ทำฟาวล์ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กองกลางหงส์แดงจนบาดเจ็บหัวเข่าขวา แต่หลังจากได้รับการปฐมพยาบาล เขาเล่นต่อไม่ไหว จอร์จินโย่ ไวจ์นาลดุม ได้ลงสนามแทน

โรม่า เกือบได้ประตูเช่นกันในนาที 19  อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ยิงเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ ลอริส คาริอุส นายทวารลิเวอร์พูลปัดบอลชนคาน หวุดหวิด

หงส์แดง ได้ลุ้นจากโต้กลับเร็ว โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ผ่านบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายข้ามคานออกหลัง

หงส์แดงบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ซาดิโอ มาเน่ ยิงเผาขนหน้าประตูเข้าไป แต่  เฟลิกซ์ ไบรช์ ผู้ตัดสินคนดังของเยอรมันไม่ให้ ลิเวอร์พูล ได้ประตู  โดยเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า

นาที 35 โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ผ่านบอลแม่นยำให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ปั่นด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมเสาสองเข้าประตู ลิเวอร์พูลนำ 1-0 

3 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่สอง ซาล่าห์ เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เดยัน ลอฟเรน โหม่งที่เสาสอง บอลชนคานอย่างจัง

ช่วงทดเวลาเจ็บ กองเชียร์หงส์แดงเฮลั่นสนาม เมื่อทีมรักนำห่าง 2-0 จากจังหวะโต้กลับเร็ว ฟีร์มิโน่ จ่ายบอลเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซัดเท้าซ้ายนอกกรอบเขตโทษตุงตาข่าย เป็นลูกที่สองของเขาในนัดนี้ และเป็นประตูที่ 10 ของเขาในแชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลนี้ ก่อนจบครึ่งแรกสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 56 ลิเวอร์พูล หนีเป็น 3-0 เมื่อ ซาลาห์ หลุดขึ้นทางกราบขวาก่อนเปิดให้ ซาดิโอ มาเน่ ชาร์จนิ่มๆ ไม่เหลือ

ยิ่งเล่นยิ่งขาด นาที 61 หงส์แดง นำเป็น 4-0 และจากแนวรับฝั่งขวาของ โรม่า ที่หละหลวมเช่นเคย โคลารอฟ หลุดตำแหน่งทำให้ ซาลาห์ พาบอลจี้ก่อนโยกหนี ฮวน เชซุส และเปิดให้ ฟีร์มีโน่ แปจ่อๆ 2 หลาที่เสาไกลเข้าไป

อีก 7 นาทีถัดมา เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุมทางทางฝั่งขวา เจมส์ มิลเนอร์ โยนบอลมาเข้าหัว ฟีร์มิโน่ โหม่งกดลงพื้นบอลพุ่งเข้าประตู ลิเวอร์พูลนำไปอีกเป็น 5-0 และเป็นการยิง 10 ประตูเท่ากับ ซาลาห์ อีกด้วย 

โรม่า ได้บอลทางปีกซ้าย นาที 73 ดีเอโก้ เปร็อตติ ปีกตัวสำรอง โยนไปเสาสองให้ พาทริค ชิค กองหน้าตัวสำรองโหม่ง 6 หลาไปติด ลอริส คาริอุส นายทวารลิเวอร์พูลเซฟได้อย่างไม่มีปัญหา

ท้ายเกมนาที 81 โรม่า ได้ประตูตีไข่แตกเมื่อ รัดย่า นาอิงโกลัน เปิดบอลยาวเข้าเขตโทษ เดยัน ลอฟเรน โหม่งไม่ถึง บอลไปถึง เชโก้ ได้ดึงลงก่อนซัดด้วยขวาระยะ 6 หลาสวนตัว ลอริส คาริอุส เข้าไป 

โรม่า ฮึดต่อเนื่องจนได้จุดโทษในนาที 85 เมื่อ นาอิงโกลัน ยิงบอลอัดมือ เจมส์ มิลเนอร์ และเป็น ดีเอโก้ เปร็อตติ แปนิ่มๆ เสียบสามเหลี่ยมอย่างเยือกเย็น สกอร์กลับมาเป็น 5-2 

จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 5-2 นัดสอง โรม่า จะได้เล่นในบ้านวันพุธที่ 2 พ.ค. นี้ โดยมีโจทย์เดิมคือชนะ 3-0 ให้ได้เหมือนรอบที่แล้ว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : ลอริส คาริอุส - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์ - โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่   

โรม่า : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, คอสตาส มาโนลาส, ฮวน เชซุส - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, เควิน สตรอทมัน, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - เซนกิซ อุนเดอร์, รัดย่า นาอิงโกลัน - เอดิน เชโก้  

ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ไบรช์ (เยอรมัน)