แผนการเล่น : 3-4-3

ประตู :  ไพโรจน์ เอี่ยมมาก (สุโขทัย เอฟซี) 

"อาร์ต" ช่วยทีมได้เยอะมากทั้งการออกมาตัดบอลลูกกลางอากาศ ในรูปเกมที่ถูก "ปราสาทสายฟ้า" โหมบุกใส่อย่างหนัก การทุ่มเทพุ่งเซฟแบบไม่กลัวเจ็บทุกๆ จังหวะและแทบไม่มีข้อผิดพลาดช่วยทำให้เพื่อนร่วมทีมหมดกังวล จนสามารถคว้่าชัยเหนือทีมจ่าฝูงได้สำเร็จ เป็นการกลับมาชนะนัดแรกในรอบ 5 เกมของ "ค้างคาวไฟ" อีกด้วย

กองหลัง : เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

เกมรับยังคงเหนียวแน่นเหมือนเดิมสำหรับกองหลังเลือดแซมบ้ารายนี้ทั้งภาคพื้นดินและลูกกลางอากาศ และอีกหนึ่งทีเด็ดก็คือการขึ้นมาทำประตูในจังหวะลูกตั้งเตะ เกมนี้โหม่งไปอีก 1 ประตูช่วยให้ทีมขึ้นนำเร็วตั้งแต่ต้นเกม และเป็นประตูที่ 2 ในฤดูกาลนี้แล้ว

กองหลัง : เอเลียส ดอเลาะห์ (การท่าเรีอ เอฟซี) 

หมากเด็ดที่ จเด็จ มีลาภ เปิดเผยหลังเกมว่าได้มอบหมายให้เขาตามประกบ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ กองหลังจ้าวเวหาของ เชียงราย ในจังหวะลูกตั้งเตะ ซึ่ง เอเลียส ก็จัดการได้อยู่หมัดตลอดทั้งเกมทั้งลูกโอเพ่นเพลย์และเซ็ตเพลย์ กองหลังลูกครึ่งไทย-สวีดิชมีบทบาทสำคัญมากสำหรับชัยชนะของ "สิงห์เจ้าท่า" ในเกมนี้

กองหลัง : นพพล ปิตะฝ่าย (สุพรรณบุรี เอฟซี)

ซ้ายผ่านตลอดจริงๆ สำหรับฟอร์์มการเติมเกมรุกของวิงแบ็กวัย 33 ปี ทั้งสามประตูที่ "ช้างศึกยุทธหัตถี" ทำได้ในเกมนี้ "หนุ่ม" มีส่วนร่วมด้วยทั้งหมด จากการครอสบอลของเขา โดยช่วยจ่ายให้เพื่อนทำประตูโดยตรงไป 2 แอสซิสต์พาทีมเอาชนะ แอร์ฟอร์ซ ขาดลอย 3-0

กองกลาง : วานเดอร์ หลุยส์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด) 

ความสามารถเฉพาะตัวล้นเหลือจริงๆ ยามบอลอยู่กับเท้าเขาพลิ้วไหวราวกับกำลังเต้นโชว์อยู่บนฟลอร์ และยามไม่มีบอลก็เคลื่อนที่หาช่องให้เพื่อนตลอดเวลา เกมนี้แม้ยิงประตูไม่ได้แต่ก็จ่ายให้เพื่อนไป 2 แอสซิสต์ รวมถึงสร้างสรรค์โอกาสในเกมรุกให้ทีมอีกมากมาย

กองกลาง : มาร์ติน เอ็นจิว่า (สุโขทัย เอฟซี) 

แม้จะมีตำแหน่งเป็นตัวรุก แต่ เอ็นจิว่า คือคนที่ลงมาช่วยเกมรับเยอะมากในทุกๆ เกม แม้แต่เพื่อนร่วมทีมก็ยังชื่นชมว่าเขาเป็นนักเตะที่ช่วยสร้างสมดุลย์ให้กับการเล่นของ "ค้างคาวไฟ" หลายๆ จังหวะที่ดาวเตะมาดากัสการ์ช่วยลงมาป้องกัน แถมยังโชว์ทีเด็ดพักอกก่อนล็อกหนึ่งจังหวะแล้วเลือกมุมยิงประตูแบบเหนือชั้นให้ทีมเฉือนชนะจ่าฝูงอย่าง บุรีรัมย์ ได้สำเร็จ

กองกลาง : อ่อง ตู (โปลิศ เทโร) 

ในวันที่ขาด มิชาเอล เอ็นดรี้ ใครหลายคนคงคิดว่าความเฉียบคมของ โปลิศ เทโร น่าจะหายไป แต่ อ่อง ตู พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือนักเตะในระดับที่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ การบัญชาเกมรุกด้วยความเฉลียวฉลาดในการครอบครองบอลบวกกับความเร็วและการจ่ายบอลที่แม่นยำ สร้างโอกาสให้ทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทีมากมาย ประตูที่เขาทำได้ถือเป็นความสามารถเฉพาะตัวอันยอดเยี่ยมที่พลิกบอลหลบแนวรับของพัทยาทั้งแผงก่อนพาบอลเข้าไปซัดเสียบสามเหลี่ยมอย่างงดงาม

กองกลาง : ทากาฟุมิ อากาโฮชิ (สุพรรณบุรี เอฟซี) 

ดาวเตะเลือดซามูไรสร้างสรรค์เกมทางกราบซ้ายร่วมกับ นพพล ปิตะฝ่าย ได้อย่างไหลลื่น แถมยังมีภาวะผู้นำคอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นหัวใจสำคัญอีกคนหนึ่งของ "ช้างศึกยุทธหัตถี" นัดนี้ทำไป 1 ประตูอีกทั้งสร้างโอกาสให้เพื่อนและช่วยดีเลย์เกมในจังหวะถูกโต้กลับได้เป็นอย่างดี 

กองหน้า : อองรี ดุมเบีย (ชัยนาท ฮอร์นบิล) 

แนวรุกของทีม "นกใหญ่พิฆาต" ท็อปฟอร์มสุดๆ ในการประสานงานกันของ 3 กองหน้าอย่าง ดุมเบีย, ปงโกลล์ และ บีรัม แต่ที่เด่นสุดๆ ต้องยกให้ศูนย์หน้าชาวไอวอรี่ โคสต์ผู้นี้ กองหน้าวัย 25 ปียิงไปคนเดียว 2 ประตู รวมถึงสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับของ บีจี จนรวนกันไปหมดทั้งแผง

กองหน้า :  เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (เอสซีจี เมืองทองฯ)  

ในเกมที่ เมืองทอง เสี่ยงเหลือเกินต่อการพ่ายแพ้เกมแรกภายใต้การคุมทีมขัดตาทัพอย่าง "โค้ชใหม่" สันติ ไชยเผือก สถานการณ์ที่ตามหลัง 0-2 แต่ยังมาได้ เฮแบร์ตี้ ที่มีเท้าซ้ายอันทรงพลังช่วยพาทีมตามตีเสมอต้นสังกัดเก่าได้สำเร็จ จากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษและลูกยิงไกลสุดสวย 

กองหน้า : เปาโล แรนเจล (นครราชสีมา มาสด้า) 

ศูนย์หน้าชาวบราซิลยิงไม่ได้มาหลายเกม จนถูกวิจารณ์ว่าฟอร์มตก แต่เกมนี้เขากลับมาได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายบดเข้าใส่แนวรับของราชนาวี ก่อนจะซัดแฮตทริกแรกในฤดูกาลพาทีม "สวาดแคท" ทะยานขึ้นมาอยู่ในกลุ่มท็อปซิกซ์ของตารางได้สำเร็จ

โค้ช : เดนนิส อมาโต้ (ชัยนาท ฮอร์นบิล) 

กุนซือชาวเยอรมันได้รับฉายา "ขงเบ้งแห่งเขาพลอง" จากแฟนๆ ของทีม "นกใหญ่" ไปเรียบร้อย ด้วยฝีมือและมันสมองในการวางแผนใช้ทรัพยากรนักเตะของทีมได้อย่างชาญฉลาด แผนการเล่นเกมรุกที่มี 3 ศูนย์หน้าต่างชาติเป็นหัวใจหลัก บวกกับความไว้ใจใช้ผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง ชัชชน ใจรังษี และ รัชนาท อรัญญไพโรจน์ ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ แสดงให้เห็นแล้วว่าไอเดียของเขายอดเยี่ยมเพียงใดด้วยการบุกถล่ม บางกอกกล๊าส ขาดลอยถึง 5-2  พร้อมกับเป็นการคว้าชัยเหนือทีมใหญ่ 2 เกมติดต่อกันด้วยหลังจากเฉือน การท่าเรือ มาในสัปดาห์ก่อน