:::     :::

ส.บอลลงตรวจ3สนามเตรียมเสนอจัดยู-23ชิงแชมป์เอเชีย

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม 2561
1,247
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
รู้ก่อนใคร ลึกกว่าใคร ข่าวบอลไทย ต้องที่ THSPORT

สมาคมกีฬาฟุตบอลส่งคณะทำงานตรวจสอบความพร้อม 3 สนาม เตรียมเสนอตัวจัดชิงแชมป์เอเชียยู-23 ปี 2020

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่สมาคมฯ เดินทางไปตรวจสอบความพร้อมของสนาม เพื่อเตรียมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ในปี 2563

การเดินทางครั้งนี้นำโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศ โดยได้เดินทางไปยัง 3 สนามในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง, สนาม ลีโอ สเตเดียม และ สนาม เมน สเตเดียม ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

โดยทางด้านของ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ กล่าวว่า "ในช่วงที่ผ่านมา เอเอฟซี ได้เปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกที่สนใจ เสนอตัวและแสดงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันให้กับเอเอฟซี ภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ซึ่งสมาคมฯ ก็มีความสนใจและก็เริ่มเก็บข้อมูล โดยล่าสุดได้ส่งคณะทำงานไปตรวจสนามที่มีความเป็นไปได้ และตรงกับความต้องการเบื้องต้นของเอเอฟซี ซึ่งประกอบไปด้วยสนามในโซนกรุงเทพและปริมณฑลจำนวน 3 สนาม อันประกอบไปด้วย สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง, สนาม ลีโอ สเตเดียม และสนาม ทรู สเตเดียม"

"การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ถือเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดในทวีปลำดับสอง เป็นรองเพียงแค่เอเชียน คัพ เพียงรายการเดียวเท่านั้น ซึ่งสมาคมฯ ก็มีความมั่นใจว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สำคัญของเอเอฟซี"

ขณะที่ กิตติ วงศ์สถาพรชัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขันสมาคมฯ กล่าวว่า "ที่ผ่านมา เราเคยมีประสบการณ์จัดการแข่งขันตั้งแต่ระดับภูมิภาค ทั้งเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่เป็นทีมเหย้าในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ และในปีที่ผ่านมา เราก็เป็นเจ้าภาพทั้งในศึกชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ที่ จังหวัดชลบุรี, ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก U16, ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รอบสุดท้าย, ฟุตบอลชายชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก เป็นต้น รวมถึงฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกที่ผ่านมา"

"ทางสมาคมฯ มั่นใจว่าด้วยศักยภาพในปี 2020 ที่เราขอเสนอตัวในการเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ ซึ่งถือเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดลำดับสองของทวีปเอเชีย อย่างที่ทราบว่า ประเทศไทย มีข้อได้เปรียบมากมาย อาทิ สถานที่ท่องเที่ยว, อาหาร และน่าจะพร้อมกว่าหลายๆประเทศ แต่เราก็ต้องพยายามพัฒนาขึ้นไป"

"การแข่งขันรายการนี้จะมีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 16 ชาติ เราต้องมองหาจังหวัดที่มีมากกว่า 3 สนาม ซึ่งก็น่าจะเป็นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งในโซนนี้ก็มีทีมที่เคยผ่านการใช้งานในระดับเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว อาทิ ลีโอ สเตเดียม และ ทรู สเตเดียม รวมถึงสนามราชมังคลากีฬาสถาน”

ส่วนทางด้านของ สรัลพร นาคสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศสมาคมฯ กล่าวเสริมว่า "ทาง เอเอฟซี ได้ส่งหนังสือเชิญให้กับทุกประเทศในทวีปเอเชีย ว่ามีประเทศไหนสนใจเป็นเจ้าภาพฟุตบอลรายการใดบ้างในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเราได้อ่านจดหมาย เราเองก็สนใจที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้"

"ทางเราได้เตรียมพร้อมมาตลอด ทั้งการมองหาสนามทั้ง 4 สนามตามกฎเกณฑ์ที่เอเอฟซีวางไว้, เรื่องโรงแรมที่พักสำหรับนักกีฬา และนำเสนอภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 นี้ และเมื่อนำเสนอผ่าน ทาง เอเอฟซีก็จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอีกครั้ง"

"สำหรับการทำงานจะแบ่งออกเป็น 4 ฝ่าย หนึ่งคือดูแลเรื่องสนาม และสิ่งอำนวยความสะดวก, ฝ่ายที่สองคือการประสานงานกับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย, ฝ่ายที่สามคือดูในเรื่องของโรงแรมที่พัก และฝ่ายสุดท้าย คือดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัย, การเดินทาง, การดูแลแขกพิเศษ เป็นต้น"

"ในส่วนของเจ้าหน้าที่สมาคมฯ หลายคน ก็เริ่มมีประสบการณ์ ทั้งการไปฝึกงานกับฟีฟ่า และ เอเอฟซี ก็เชื่อว่าทุกคนจะพยายามนำเอาประสบการณ์ทั้งจากการทำงานและประสบการณ์การจัดการแข่งขัน มาทำงานตรงนี้ให้ออกมาดีที่สุด และดีขึ้นไปเรื่อยๆ"


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด