ฟุตบอลโลก 2018

เยอรมัน 2 - สวีเดน 1

สนาม :  ฟิชท์ โอลิมปิค สเตเดี้ยม

    เปิดฉากครึ่งแรกมาได้แค่สามนาที เยอรมัน ได้ลุ้นก่อนเลย เมื่อ ทิโม แวร์เนอร์ โขกให้กับ ยูเลี่ยน ดรั๊กซ์เลอร์ ยิงด้วยซ้ายติดบล็อคของวิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กองหลังสวีเดน ออกหลังไป

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 12 สวีเดน ตั้งหลักได้แล้ว วิคตอร์ เคลสสัน จ่ายทะลุขึ้นหน้าให้กับ มาร์คุส เบิร์ก กระชากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไป แต่จังหวะจะยิงโดน เยโรม บัวเต็ง ปราการหลังอินทรีเหล็ก ตามมากระแทกจากทางด้านหลังล้มลงไปในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินเฉยไม่ให้จุดโทษ และไม่ดูวีเออาร์ ด้วย

    หกนาทีต่อมา สวีเดน ได้ลุ้นอีก ลุสติก จ่ายให้กับ มาร์คุส เบิร์ก ซัดด้วยขวากลางกรอบเขตโทษติดบล็อคผู้เล่นเยอรมัน

    ผ่านมา 25 นาที เซบาสเตียน รูดี้ กองกลางของทีมชาติเยอรมัน มีอาการบาดเจ็บที่จมูก เลือดไหลทะลักออกมาเยอะทีเดียว หลังจากไปโดนเข่าของโอล่า ตอยโวเน่น ตัวรุกของสวีเดน แบบไม่ตั้งใจ ต้องออกไปปฐมพยาบาลอยู่นาน แต่ก็เล่นต่อไม่ไหว เลยต้องส่ง อิลคาย กุนโดกัน ลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 31

    อย่างไรก็ตามกลายเป็นสวีเดน มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 32 จากจังหวะที่ โทนี่ โครส ไปจ่ายเสียในแดนกลาง โดนผู้เล่นสวีเดนตัดได้ บอลมาถึง วิคตอร์ เคลสสัน โยนจากกราบขวาให้ โอล่า ตอยโวเน่น วิ่งสอดมาใช้อกพักบอล ก่อนกระดกยิงด้วยขวาบอลแฉลบ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ กองหลังเยอรมันที่แหย่ขามาสกัด บอลลอยโด่งข้ามหัวของ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารอินทรีเหล็ก เสียบมุมซ้ายเข้าไปอย่างสวยงาม

    เยอรมัน อยู่ไม่ได้แล้วรวมพลบุกกลับทันที มีโอกาสในนาทีที่ 39 ยูเลี่ยน ดรั๊กซ์เลอร์ จ่ายให้กับ อิลคาย กุนโดกัน ที่ลงมาเป็นสำรองปั่นด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ โรบิน โอลเซ่น นายทวารสวีเดน พุ่งปัดมือเดียวออกมา อันเดรียส กรานควิสต์ กัปตันทีมสวีเดน ช่วยหวดสกัดบอลไปโดนตัวของโธมัส มุลเลอร์ ของเยอรมัน กลิ้งหลุดเสาซ้ายไปนิดเดียวเท่านั้น

    ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+2 สวีเดน ได้โอกาส เมื่อ เซบาสเตียน ลาร์สสัน โยนฟรีคิกให้กับ มาร์คุส เบิร์ก สะบัดโขกในกรอบเขตโทษ แต่ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารกัปตันทีมของเยอรมัน เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม หมดครึ่งแรก สวีเดน ขึ้นนำก่อน 1-0

    กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เยอรมัน เปลี่ยนผู้เล่นคนที่สองของเกมนี้ให้ มาริโอ โกเมซ กองหน้าร่างใหญ่ลงสนามแล้วถอด ยูเลี่ยน ดรั๊กซ์เลอร์ ออกมา

    กระเถิบมานาทีที่ 48 เยอรมัน ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ เมื่อ ทิโม แวร์เนอร์ เปิดจากกราบซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลเลย มาริโอ โกเมซ ไปแล้ว แต่ยังมี มาร์โก รอยส์ สอดมาตวัดยิงบอลโดนหน้าแข้งซ้าย แต่ยังเข้าประตูไป

    สามนาทีต่อมา อินทรีเหล็ก บดต่อ โทนี่ โครส โยนฟรีคิกให้กับ โธมัส มุลเลอร์ ขึ้นโขกทางกรอบเขตโทษด้านขวาบอลหลุดเสาแรกไป

    จากนั้นนาทีที่ 56 โอกาสของเยอรมัน อีกครั้ง ทิโม แวร์เนอร์ เปิดให้ โยนาส เฮคเตอร์ สับด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายติดเซฟของโรบิน โอลเซ่น นายทวารสวีเดน

    อินทรีเหล็ก บดหนักจริงๆ มีโอกาสอีก โกเมซ โขกตั้งคืนมาให้กับ โทนี่ โครส ตะบันด้วยขวาจากหน้ากรอบเขตโทษติดบล็อคของอัลบิน เอ็คดาล กองกลางสวีเดน ออกหลังไปในนาทีที่ 65

    ล่วงเลยมานาทีที่ 76 โอกาสของสวีเดน บ้าง ดูร์มาซ เปิดมุมจากทางด้านขวาเข้ามา ผู้เล่นของเยอรมัน เคลียร์ออกมาเข้าทางของ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก หวดสวนด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ แต่ไปเข้าซองของมานูเอล นอยเออร์

    ถัดมาสองนาที สวีเดน เปลี่ยนเอา จอห์น กุยเด็ตติ ลงเล่นแทน โอล่า ตอยโวเน่น คนทำประตูให้ทีมขึ้นนำ

    ท้ายเกมนาทีที่ 82 เยอรมัน ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ เยโรม บัวเต็ง ไปเสียบ มาร์คุส เบิร์ก จากทางด้านหลัง เลยโดนผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สองให้ กลายเป็นใบแดง ถูกไล่ออกไป

    แต่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 5 อินทรีเหล็กมาได้ฟรีคิกริมเขตโทษฝั่งซ้าย โครส เขี่ยสั้นให้ รอยส์ แปะเปลี่ยนจุดก่อนที่ โครส จะวิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวาเสียบเสาไกลสุดสวย จบเกมเยอรมันพลิกแซงสวีเดน 2-1

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    เยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์, โยชัว คิมมิช, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เยโรม บัวเต็ง, โยนาส เฮคเตอร์, เซบาสเตียน รูดี้, โทนี่ โครส, โธมัส มุลเลอร์, ยูเลี่ยน ดรั๊กซ์เลอร์, มาร์โก รอยส์, ทิโม แวร์เนอร์

    สวีเดน : โรบิน โอลเซ่น, มิคาเอล ลุสติก, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, อันเดรียส กรานควิสต์, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน, วิคตอร์ เคลสสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อัลบิน เอ็คดาล, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, มาร์คุส เบิร์ก, โอล่า ตอยโวเน่น 

    ผู้ตัดสิน : ซิมอน มาร์ซิเนี๊ยค (โปแลนด์)