แผนการเล่น : 4-3-3

ประตู :  อุกฤษณ์ วงศ์มีมา (ราชบุรี มิตรผล) 

ในเกมที่ ราชบุรี หยุดสถิติชนะรวด 12 เกมของ แบงค็อก ยูไนเต็ด เอาไว้ได้ คีย์แมนสำคัญต้องยกให้ "เจ้ากฤษณ์" ที่โชว์ฟอร์มเซฟลูกสำคัญเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่ถูก "แข้งเทพ" โหมบุกใส่ราวกับพายุแต่ก็ต้านเอาไว้ได้หมด พาทีมเก็บ 1 แต้มกลับบ้านได้สำเร็จ

กองหลัง : ลักษณะ คำรื่น(ชัยนาท ฮอร์นบิล)

"กัปตันลักษณ์" เติมเกมบุกมันส์ดีเหลือเกินทางริมเส้นฝั่งซ้าย แถมยังยิงประตูได้อีกครั้งในจังหวะสวนกลับและซ้ำลูกยิงของ อองรี ดูมเบีย เข้าไป ถือเป็นแบ็กขวาอีกคนที่ฟอร์มสม่ำเสมอมาตลอด และเป็นผู้ปิดทองหลังพระในหลายๆ เกมที่ชัยนาท ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ

กองหลัง : อี โฮ (เอสซีจี เมืองทองฯ)

เกมรับช่วยกันกับ อาโอยามะ เก็บขวาดในกรอบเขตโทษกันได้อย่างลงตัว ส่วนหนึ่งต้องชมนายด่านอย่าง ประสิทธิ์ ผดุงโชค ด้วยที่ทำให้คู่เซนเตอร์อุ่นใจได้มากขึ้น ประตูที่ อี โฮ โหม่งให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ทำให้ทีมเล่นอย่างผ่อนคลายมากขึ้น และผลงานดีต่อเนื่องแบบนี้ อี โฮ คงได้ยืนตำแหน่งเซนเตอร์ไปยาวๆ แน่นอน

กองหลัง : อี วอน แจ (นครราชสีมา มาสด้า)

การที่ "สวาดแคท" เก็บได้เพียง 1 คะแนนในบ้านอาจดูเป็นผลงานที่น่าผิดหวัง แต่ถ้าใครได้ดูเกมก็คงต้องบอกว่าถ้าไม่ได้ปราการหลังชาวเกาหลีใต้รายนี้ช่วงป้องกัน 3 ประสานแนวรุกของ โปลิศ เทโร ทั้ง มิชาแอล เอ็นดรี้, อ่อง ตู และ มาร์กอส วินิซิอุส ก็อาจจะไม่ได้แม้แต่แต้มเดียวไปแล้วด้วยซ้ำ

กองหลัง : ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

"เจ้าพี" เป็นคนครอสบอลให้ พรรษา โหม่งประตูออกนำ และยังสร้างสรรค์โอกาสอีกมากมายในการขึ้นเกมริมเส้น ทั้งยิงเองและครอสจากด้านข้าง ในเกมรับก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีในการรับมือกับความเก๋าของ อมร ธรรมนาม ซึ่งแทบจะูถูกตัดออกไปจากเกมเลยทีเดียว 

กองกลาง : บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ) 

"เจ้าโดม" ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแล้วก็ไม่ทำให้แฟนๆ "สิงห์เจ้าท่า" ผิดหวัง ด้วยลีลากระชากลากเลื้อยตามสไตล์ฺถนัด เป็นคนยิงประตูให้ทีมออกนำไปก่อนและเป็นจุดเริ่มต้นของลูกที่สอง จากการเลี้ยงบอลจนถึงสุดเส้นแล้วตัดกลับเข้ากลางจนบอลมาเข้าทางนูีรูล ได้ยิงเหน่งๆ   

กองกลาง : นูรูล ศรียานเก็ม (การท่าเรือ) 

ทำไป 1 ประูตูในเกมคว้าชัยเหนือบางกอกกล๊าสที่ดวลกันเดือดดีเหลือเกิน แต่รายละเอียดในเกมก็ถือว่า นูรูล มีบทบาทอย่างมากในการทำเกมรุกให้กับทีม มีโอกาสยิงได้มากกว่า 1 ลูกด้วยซ้ำถ้าจังหวะจบเฉียบคมกว่านี้สักหน่อย แต่โดยรวมก็ถือว่า "สิงห์เจ้าท่า" ได้ประโยชน์จากความคล่องแคล่วและการขึ้นเกมริมเส้นของดาวเตะรายนี้ไม่น้อยเลย

กองกลาง : อมาดู อ๊วตตาร่า (ราชนาวี) 

เริ่มต้นมาอยู่เมืองไทยในช่วงแรกกับตำแหน่งปีกซ้าย แต่พอมาอยู่ราชนาวี ก็ขยับขึ้นไปยืนเสมือนศูนย์หน้าริมเส้นมากขึ้น และใช้ความเร็วที่เป็นจุดขายโจมตีคู่ต่อสู้ได้อย่างโดดเด่น ก่อนหน้านี้อาจจะถูกวิจารณ์ว่าเป็นบอลชายเดี่ยวมากเกินไป แต่พอเริ่มเลกสองมาดูเหมือนกุนซือใหม่อย่างรีตอฟสกี้ จะรู้วิธีใช้งานแข้งรายนี้ให้เต็มประสิทธิภาพ และก็ถือว่าตัดสินใจไม่ผิดที่ไว้วางใจแข้งตีนจรวดรายนี้

กองหน้า : สมศักดิ์ มุสิกะพันธ์ (อุบล ยูเอ็มที) 

"บอลลูกไฟ" ฉายาของ สมศักดิ์ มุสิกะพันธ์ ได้มาเพราะความเป็นศูนย์ฺหน้าความเร็วสูง และเมื่อถูก "เทพอินทรี" จับไปยืนข้างหน้าเต็มตัว ก็เสมือนฝันร้ายของแนวรับ แอร์ฟอร์ซ ที่โดนความเร็วของ "เจ้าบอล" พาทัวร์ตลอดทั้งเกม อายุอานามแค่ 26 ปีเศษ ถือว่ากำลังพีคเลยทีเดียวและหากทีมชาติไทยอยากได้ตัวริมเส้นความเร็วสูงที่จบสกอร์ได้ดี ก็น่าจะลองหันมาชายตาดู สมศักดิ์ มุสิกะพันธ์ บ้างก็ได้

กองหน้า : แบร์กนา อองรี ดูมเบีย (ชัยนาท ฮอร์นบิล) 

ฟอร์มแรงต่อเนื่องดีเหลือเกินสำหรับหัวหอกชาวไอวอรี่โคสต์รายนี้ ทั้งความเร็วความแข็งแกร่งและความเฉียบขาดในการทำประตู เกมนี้ซัดไปคนเดียว 2 ลูกช่วยให้ "นกใหญ่พิฆาต" ทะยานขึ้นมาติดท็อปเท็นของตารางคะแนนได้เป็นครั้งแรกในซีซั่น และถือเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองที่สุดอีกคนหนึ่งในช่วงเลกที่สองนี้

กองหน้า :  แฮร์ลิซอน คายอน (ราชนาวี)  

ศูนย์หน้าคนใหม่ของราชนาวี ที่เพิ่งเข้ามาในเลกที่สอง จับคู่เล่นเกมรุกกับ อมาดู อ๊วตตาร่า ได้อย่างน่าสนใจเหลือเกิน เพราะมีความแข็งแกร่งเข้ามาช่วยให้แนวรุกของ "ตะหานน้ำ" มีไดนามิกมากขึ้นในการเข้าทำ เกมนี้ยิงเบิกร่องให้ีทีมขึ้นนำก่อน และมาแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงปิดกล่้องอีกหนึ่งประตู

เฮดโค้ช : ลูโบเมียร์ รีตอฟสกี้ (ราชนาวี)

เป็นอีกเกมที่กุนซือชาวเซอร์เบียแสดงให้เห็นถึงถึ๋นว่าเขานั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ในการวางแผนช่วยเปลี่ยนแปลงให้ ราชนาวี เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละทีมจากเลกแรก การเลือกใช้งานผู้เล่นอาจจะไม่ได้มีซูเปอร์สตาร์แต่สปิริตในทีมก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดึงความมั่นใจของ อินทรัตน์ อภิญญากุล ที่เคยฟอร์มออกทะเลกลับมาเหนียวหนึบไว้ใจได้ และ อมาดู อ๊วตตาร่า ก็เล่นเพื่อทีมมากขึ้นจนสร้างประโยชน์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย หาก ราชนาวี รอดตกชั้นได้สำเร็จคงต้องตบโบนัสก้อนใหญ่ให้กับ รีตอฟสกี้ แน่นอน