โดยในเกมแรกขุนพลช้างศึกยู-19 เสมอกับคู่ปรับอย่างเวียดนามไป 0-0 "โค้ชหระ" ได้กล่าวว่า “เกมแรกกับ เวียดนาม จะเห็นได้ว่านักเตะมีความเหนื่อยล้า เนื่องจากเราใช้เวลาเดินทางรวมกว่า 20 ชั่วโมง อีกทั้งในการเก็บตัวฝึกซ้อมนักเตะหลายคนต้องกลับไปเล่นให้สโมสรต้นสังกัด ทำให้การฝึกซ้อมมันไม่ต่อเนื่อง มีเพียงนักเตะ 7-8 คนเท่านั้นที่อยู่ฝึกซ้อมกับเราตลอด”

“เมื่อก่อนนักเตะเหล่านี้เป็นเพียงนักเตะตัวสำรองของสโมสร แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่ หลายคนก้าวมาเป็นนักเตะตัวหลักของสโมสรแล้ว ผมคิดว่ามันมีผลดีและผลเสียต่อการเตรียมทีม ข้อดีคือเด็กมีเกมเล่นเพื่อพัฒนาตัวเอง แต่ผลเสียที่ตามมาคือความสัมพันธ์ในทีมมันไม่มีความต่อเนื่อง นอกจากนี้มีนักเตะบางคนเพิ่งเดินทางมาร่วมทีมก่อนที่จะบินมาอินโดนีเซียเพียงวันเดียว แต่พอนักเตะมารวมตัวกันครบทีมความสัมพันธ์ในทีมมันก็ค่อยๆ ดีขึ้น ซึ่งมันจะช่วยให้ฟอร์มการเล่นของทีมไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ”

“เราเห็นแล้วว่าเด็กมีจุดบกพร่องอย่างไรบ้างในเกมแรก เราจะเอาจุดนั้นมาแก้ไขให้ทีมดีขึ้น อีกทั้งการที่เด็กได้พักและเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรามีความพร้อม ก่อนเจอ สปป. ลาว เกมนี้เราจะส่งผู้เล่นเกมรุกทั้ง เมธี สาระคำ, ยุทธพิชัย เลิศล้ำ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ลงเล่นกับลาว การที่นักเตะเหล่านี้ไม่ได้ลงสนามในเกมแรก เนื่องจากเพิ่งเดินทางมาร่วมทีม แต่ตอนนี้พวกเขาพร้อมลงสนามแล้ว”

“ผมตั้งเป้าเก็บ 3 แต้มให้ได้ทุกนัด แต่ว่าเราก็ต้องวางแผนไปทีละขั้นตอน เน้นไปทีละเกม เพื่อเก็บชัยชนะ และผ่านเข้าสู่รอบต่อไปให้ได้ครับ” กุนซือ “ช้างศึกU19” กล่าวปิดท้าย

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์อาเซียน 2018 รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองของสายเอ ทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับ สปป.ลาว ในวันที่ 3 กรกฏาคม 2561 ที่สนามโจโก ซามูโดร สเตเดียม เวลา 15.30 น.