'สิงโตคำราม' ที่ผ่านมาสู่รอบตัดเชือกอีกครั้งนับจาก เวิลด์ คัพ 1990 จะพบคู่แข่งอย่าง โครเอเชีย ชาติระดับคุณภาพซึ่งโค่น อาร์เจนตินา ในกรุ๊ป สเตจ มาแล้ว 

ทั้งนี้ มูรินโญ่ ฐานะคอมเมนเตเตอร์ของสำนักข่าว 'อาร์ที' แสดงความเห็นว่าลูกน้องของ ผจก.ทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้เปรียบเรื่องความสดอยู่แล้ว ดังนั้นจงใช้จุดหักด่าน 'ตาหมากรุก' ซึ่งกรอบเป็นข้าวเกรียบเพราะเล่นกว่า 240 นาที จากสองรอบน็อคเอาต์

"ผมคิดว่าทีมชาติอังกฤษร่างกายสดกว่า, ขุมกำลังก็หนุ่มกว่า, เล่นในกลุ่มง่าย สองนัดแรกกรุ๊ป สเตจ เล่นกับทีมอ่อนใช้เสาหลัก จากนั้นพักทั้งกะบิเกมพบ เบลเยียม ต้องยอมรับว่าพวกตัวจริง 'สิงโตคำราม' สภาพดีกว่า โครแอต ที่กรอบเหลือเกิน" 

มูรินโญ่ แนะอังกฤษอย่าเต้นตามคู่แข่ง

ส่วน โครเอเชีย หากจะชนะ โชเซ่ มองว่าความเจนเวที บวกประสบการณ์แดนกลางซึ่งเหนือกว่า "ฝั่ง โครแอต มีจิตใจห้าว, กองกลางชั้นเลิศคอยคุมเกม พวกเขาจะเป็นฝ่ายครองบอลส่วนใหญ่"

ถึงเวลาฟันธง มูรินโญ่ เอียงข้างหา 'สิงโตคำราม' เพราะหากรักษามาตรฐานได้คงเข้าชิงชนะเลิศอีกครั้งนับจากปี 1966 

"แต่อังกฤษก็ดูเป็นทีมที่มีความสุข เมื่อมองลงไปจะเห็นพวกเขาตาเป็นประกาย จากชาติซึ่งไม่มีใครมองก้าวสู่แคนดิเดต ผมหวังว่าพวกเขาจะเห็นบทเรียนจาก เบลเยียม (แพ้ ฝรั่งเศส 0-1 เพราะเปลี่ยนสไตล์มาเน้นรัดกุม ทั้งที่เคยแต่เล่นบุกแหลก) นั่นคือสิ่งสำคัญว่าต้องเป็นตัวของตัวเอง" 

"กับเกมใหญ่เช่นนี้ คนต้องไม่ลืมกำพืด หรือจะให้ดีก็เล่นยกระดับผลงานขึ้นไปกว่าเดิม"  

ขุนพลสิงโตคำรามพร้อมสุดๆ

อังกฤษ ในยุคของ เซาธ์เกต พื้นฐานมาจากเกมรับเหนียวแน่น, โจมตีจากริมเส้นด้วยบอลครอส หรือเซตพีซ โดยมีตัวป่วนประสาทคู่แข่งอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หรือ เจสซี่ ลินการ์ด ขณะที่หอกเป้า แฮร์รี่ เคน ก็ขู่กองหลังฝั่งตรงข้ามจากผลงาน 6 สกอร์ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ นำดาวซัลโว