สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ออกแถลงการณ์ระบุว่าการแข่งขันฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2018 ที่เข้าสู่ 2 วันสุดท้ายนั้น ตัวอย่างเลือดนักเตะที่สุ่มตรวจมายังไม่พบว่ามีรายใดใช้สายกระตุ้นต้องห้าม
การเปิดเผยผ่าน 'ฟีฟ่า ดอทคอม' ว่าหน้าที่เก็บตัวอย่างเลือดเป็นงานของคณะกรรมการปกครอง ฟุตบอลโลก โดยสุ่มตรวจทั้งก่อนและระหว่างทัวร์นาเมนต์
ซึ่งมีกระบวนการตั้งแต่ เดือนมกราคม 2018 เก็บเลือดมา 2,037 ตัวอย่าง ผลปรากฎว่าจนถึงนัดชิงอันดับ 3 และ ชิงชนะเลิศ ยังไม่พบว่าใครเป็นบวก
รัสเซียเจ้าภาพเอาแอมโนเนียยัดจมูกเพื่อให้ออกซิเจนไหลเวียนดี
สำหรับค่าเฉลี่ยผู้เล่นรายหนึ่งต้องโดนตรวจ 4 ครั้งนับจาก ม.ค.ขณะที่บางชาติที่อยู่ในข่ายเสี่ยงอาจโดนถึง 8 หนด้วยซ้ำ
อนึ่ง รัสเซีย เจ้าภาพที่โดนจับตาเรื่องโด้ปเผยเคล็ดลับที่ทำให้นักเตะวิ่งเป็นม้าก็คือเอาแอมโมเนีย กลิ่นฉุนยัดจมูกเพื่อเพิ่มการไหลเวียออกซิเจนในเลือดแถมไม่ผิดกฎฟีฟ่า
