โดย พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เดินทางไปประชุมฟีฟ่า คองเกรส ที่ประเทศรัสเซีย และเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018  นัดเปิดสนามระหว่างทีมชาติรัสเซีย เจ้าภาพ พบกับ ทีมชาติ ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงรอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติฝรั่งเศส พบกับ ทีมชาติ โครเอเชีย และได้เห็นตัวอย่างในการจัดการแข่งขันระดับโลก รวมถึงการใช้เทคโนโลยี Video Assistant Referee (VAR) ที่ถูกนำมาใช้ในฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก

ซึ่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวว่า “สิ่งที่ได้จากการไปเข้าร่วมประชุม ฟีฟ่า คองเกรส ที่ประเทศรัสเซีย รวมไปถึงการได้เช้าชมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการสร้างมูลค่าของเอเอฟซี และฟีฟ่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถนำกลับมาใช้ในวงการฟุตบอลไทยได้ในอนาคตข้างหน้า เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ฟุตบอลไทย ซึ่งเงินเหล่านี้จะถูกมอบและกระจายไปสู่สโมสรในลีกต่างๆ ตลอดจนนำมาใช้พัฒนาฟุตบอลทีมชาติไทยทุกรุ่นอายุ"

“ด้านเอเอฟซี ได้เปลี่ยนแปลงผู้ที่เข้ามารับผิดชอบลิขสิทธิ์ ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าจากเดิมเป็น 7 เท่า เพราะเขามีกลไกในการสร้างมูลค่าของการแข่งขันที่ เอเอฟซี และ ฟีฟ่า รับผิดชอบ คาดว่าในอนาคตจะไม่มีเจ้าภาพฟุตบอลโลกที่เป็นชาติเดียวแล้ว กาตาร์คงเป็นประเทศสุดท้ายที่ได้จัดฟุตบอลโลกแบบเดี่ยวๆ ต่อไปคงจะเป็นเจ้าภาพร่วม อย่าง สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก" 

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความหวังที่ประเทศไทยจะยื่นข้อเสนอขอเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์ใหญ่นับตั้งแต่ เอเชียน คัพ ปี 2007 ว่า "ผมคิดว่าประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเดี่ยวในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกไม่ได้ แต่ถ้าร่วมมือกับชาติในอาเซียนน่าจะมีโอกาส ดังนั้นประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด แต่ถ้าวันนั้นมาถึงเราไม่ได้เตรียมความพร้อมอะไรเลยเราก็จะเสียโอกาสตรงนี้ไป ผมคิดว่าสมาคมฯ และรัฐบาลต้องช่วยกัน"