แคเปอร์นิค ตกงานมากว่า 1 ฤดูกาล นับจากหมดสัญญากับ ซาน ฟรานฯ 49เนอร์ส ทั้งทีอายุเพิ่ง 30 กะรัต แถมไร้อาการบาดเจ็บ 

ทั้งนี้สาเหตุเพราะเขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการประท้วงความอยุติธรรมสังคมสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติต่อแอฟริกัน-อเมริกัน แบบไม่สนใจใยดี ด้วยการคุกเข่าขณะบรรเลงเพลงชาติ จนกลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบไปทั้งวงการ นำมาซึ่งความเห็นแตกต่างและพิพาทหลายภาคส่วน ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังหาทางลงไม่เจอ 

ประเด็นอ่อนไหวแบบนี้แต่ ไนกี้ กลับกล้าจับ แคเปอร์นิค มาเป็นพรีเซนเตอร์โปรโมทการฉลอง 3 ทศวรรษแคมเปญ 'จัสต์ ดู อิต' พร้อมผะข้อความว่า 

แคมเปญไนกี้

"จงเชื่อมั่น แม้สิ่งนั้นอาจทำให้ต้องเสียสละทุกอย่าง"

ซึ่งทันทีที่เผยแพร่ออกมาก็สร้างเสียงวิจารณ์ไปหลายทางจน มิสเตอร์ เพรซิเดนท์ ยังต้องโหนแกระแส

"เป็นการส่งสารที่ไม่เข้าท่าเลย ไนกี้ เป็นผู้เช่าของผมมานาน (ป้ายโฆษณาตามตึกต่างๆ ซึ่งเป็นทรัพย์สินก่อนเข้ารับตำแหน่ง ปธน.) พวกนั้นจ่ายงามเสียด้วย" ทรัมพ์ ให้สัมภาษณ์ 'เดลี่ คอลเลอร์'

"ที่ผมคิดว่ามันน่าผิดหวังเพราะข้อความ รวมถึงจุดประสงค์ที่ต้องการสื่อ โดยเลือกตัวแทนแบนนั้นคือหายนะ สารนี้ไม่ควรถูกส่งออกไป พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย" 

อย่างไรก็ตาม ทรัมพ์ คงเคารพการตัดสินใจของ ไนกี้ แม้ตัวเขาไม่เห็นด้วยก็ตาม "แน่นอนว่าผมไม่สนับสนุนการแสดงออกของ โคลิน แคเปอร์นิค ทว่าก็ไม่อยากไปยุ่งด้วยแล้ว"

ทรัมพ์ บอกไนกี้เล่นกับไฟเสียแล้ว

"ทว่าอีกทางหนึ่งนี่คือประเทศที่คุณมีเสรีภาพ สามารถแสดงความเห็นแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ แต่โดยส่วนตัวผมอยู่คนละขั้วกับเขา" 

ฟีดแบ็คจากแคมเปญนี้มีทั้งกลุ่มที่ยกย่อง 'ไนกี้' รวมถึงกลุ่มต่อต้าน ที่ประท้วงด้วยการเผาและทำลายสินค้ายี่ห้อนี้ ส่วนหุ้นบริษัทร่วงไป 3%