ก่อนแมตช์เดย์ 1 วัน มีการแถลงความพร้อมของทั้งสองฝั่งที่ราชมังคลากีฬาสถาน โดยสถานการณ์ขณะนี้ทั้งคู่หมดสิทธิ์ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย แน่นอนแล้ว อย่งไรก็ตาม มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยยังหวังทำผลงานให้ดีที่สุด รวมถึงขอกำลังใจจากแฟนบอลชาาวสยาม 

“นี่เป็นเกมสุดท้ายของเราในบ้าน ผมอยากเชิญชวนแฟนบอลเข้ามาสนับสนุนเรากันเยอะๆ”

“อิรักเป็นทีมที่เหนือกว่าเราทั้งในตารางคะแนนและฟีฟ่าแรงกิ้ง แน่นอนว่าพวกเขามีโอกาสชนะมากกว่า แต่เราก็จะทำให้ดีที่สุดเพื่อเอาชนะพวกเขาให้ได้เช่นกัน”

กุนซือชาวเซิร์บยังมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ได้เจอกับทีมแกร่งแบบนี้ ถือเป็นการเรียนรู้และทำให้กระหายอยากชนะมากยิ่งขึ้น 

เรื่องขุมกำลังที่ได้ทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา ชนาธิป สรงกระสินธ์ เข้ามาเป็นเรื่องวิเซษ เชื่อว่าผู้เล่นทั้งสองคนจะช่วยทีมได้มากๆ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายเช่นกันที่สองผู้เล่นสำคัญทั้ง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มีอาการบาดเจ็บ 

ขณะที่ตำแหน่งกัปตันทีมเกมนี้จะเป็น  ธีรศิลป์ สวมปลอกแขนโดยมี ธีราทร บุญมาทัน เป็นรองกัปตันทีม 

ด้าน บาซิม กอซิม หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติอิรัก กล่าวว่า “ที่ผ่านมาเราเก็บตัวที่มาเลเซียและมีเกมอุ่นเครื่อง 1 นัดเสมอ ซีเรีย 1-1 แน่นอนว่ามันจะมีส่วนช่วยและเป็นประโยชน์อย่างมากก่อนการพบกับไทยวันพรุ่งนี้”

“ทีมชาติไทยเป็นทีมที่ได้รับพัฒนามากขึ้น ก็หวังว่าเราจะทำผลงานออกมาได้ดี หลังจากที่เกมก่อนเราเจอกับญี่ปุ่น ก็ทำผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง”

“เรามีผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน แต่เราก็ได้นำดาวรุ่งเข้ามาทดแทน แม้หลายคนจะผ่านศึกโอลิมปิกมาแล้ว แต่หลายคนก็ยังไม่เคยผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่แบบนี้ นี่จะเป็นการพิสูจน์ผลงานของทุกคน และในเกมพรุ่งนี้เราก็เตรียมแผนรับมือกับวันถือศีลอด (วันอารอฟะห์) ไว้แล้ว”

ทีมชาติไทย มีโปรแกรมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติอิรัก ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ( 31  ส.ค.) เวลา 19.00 น. ณ ราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสด ทางช่อง 7 

จากนั้นจะออกไปเยือน ทีมชาติออสเตรเลีย ( 5 ก.ย.)