แอล.เอ. แรมส์ คว้าแชมป์เอ็นเอฟซีสมัยที่ 4 หลังเคยทำได้ในปี 1979, 1999, 2001 จากการบุกเชือด นิว ออร์ลีนส์ เซนต์ส ในการเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษ 26-23 จากการเตะฟิลด์โกลระยะไกล 57 หลาของ เกร็ก เซอร์ไลน์ นำแรมส์เข้าสู่'ซูเปอร์ โบวล์'หลังเคยคว้าแชมป์ในปี 1999 โดยจะเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ กับ นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ บนสังเวียน'เมอร์เซเดส-เบนซ์ สเตเดี้ยม' ของเมืองแอตแลนต้า, จอร์เจีย ในวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์นี้

เซนต์ส รันเกมบุกไดรฟ์แรก 11 เพลย์ ระยะ 56 หลา กินเวลา 4.56 นาที ก่อน วิล ลุตซ์ จะเตะฟิลด์โกลระยะ 37 หลาให้เจ้าบ้านนำ 3-0 ก่อน แรมส์ จะเสียอินเตอร์เซปน์หน้าบ้านบนเส้น 17 หลาหลังควอร์เตอร์แบ็ก เจเร็ด กอฟฟ์ ขว้างบอลให้รันนิ่งแบ็ก ท็อดด์ เกอร์ลี่ย์ รับบอลหลุดเข้าซองไลน์แบ็กเกอร์ เดอมาริโอ เดวิส แต่ เซนต์ส ฉวยโอกาสได้เพียงฟิลด์โกลระยะ 29 หลาของ ลุตซ์ 

ทีมบุกแรมส์เล่นสามครั้งออกจนต้องพั๊นท์ทิ้งก่อน เซนต์ส จะรันเกมบุกจนทะลุเข้าเอนด์โซนสำเร็จจากการเล่น 8 เพลย์ ระยะ 68 หลา เวลา 3.51 นาที ควอร์เตอร์แบ็ก ดรูว์ บรีส์ จะขว้างให้ปีกในปีสอง การ์เร็ตต์ กริฟฟิ่น รับทำทัชดาวน์หนแรกของซีซั่นระยะ 5 หลานำห่าง 13-0 ก่อนทีมเยือนจะตีไข่แตกสำเร็จจากการเตะฟิลด์โกลระยะ 36 หลาของ เกร็ก เซอร์ไลน์ ช่วงกลางควอเตอร์สองไล่มาเป็น 3-13

แรมส์ สัมผัสเอนด์โซนคู่แข่งครั้งแรกในช่วงท้ายควอเตอร์สองจากการรันเกมบุก 7 เพลย์ ระยะ 81 หลา ใช้เวลาเพียง 1.29 นาที ก่อน เกอร์ลี่ย์ จะถือบอลวิ่งกระทุ้งเอนด์โซนไล่บี้มาเป็น 10-13 ก่อนจบครึ่งแรก 

เซนต์ส เริ่มต้นควอเตอร์สามสวยรันเกมบุกจนทำทัชดาวน์ขยับหนี 20-10 จากการเล่น 12 เพลย์ ระยะ 71 หลา กินเวลา 5.31 นาที ก่อน ดรูว์ บรีส์ จะขว้างให้ควอร์เตอร์แบ็ก ทายสัน ฮิลล์ รับบอลเข้าเอนด์โซนจากระยะ 2 หลา แต่ แรมส์ เอาคืนทันควันจากการรันเกมบุก 10 เพลย์ ระยะ 75 หลา ใช้เวลา 5.28 นาที ก่อน เจเร็ด กอฟฟ์ ขว้างให้ปีกใน ไทเลอร์ ฮิกบี้ รับบอลจากระยะหนึ่งในเข้าเอนด์โซนไล่มาเป็น 17-20 ก่อนจบควอเตอร์สาม

แรมส์ รันเกมบุกมาสวยจากการขว้างสองบิ๊กเพลย์ของ กอฟฟ์ ให้ปีกใน เจอรัลด์ เอเวอเร็ตต์ กับปีกนอก จอช เรย์โนลด์ส จนมาจ่อหน้าบ้านเซนต์ส แต่ได้แค่ฟิลด์โกลระยะ 24 หลาตีเสมอเป็น 20-20 ขณะที่เหลือเวลา 5.03 นาที 

เซนต์ส ออกนำ 23-20 หลังรันเกมบุก 9 เพลย์ ระยะ 57 หลา ใช้เวลา 3.18 นาที ก่อน วิล ลุตซ์ จะเตะฟิลด์โกลระยะ 31 หลา ขณะที่เหลือเวลาอีก 1.41 นาทีเปิดโอกาสให้ แรมส์ ตามตีเสมอสำเร็จจากการเตะฟิลด์โกลระยะ 48 หลาของ เกร็ก เซอร์ไลน์ ส่งเกมเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ

นิว ออร์ลีนส์ เสี่ยงเหรียญชนะเลือกบุกก่อนในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่เล่นไปได้ 3 เพลย์ก่อน บรีส์ จะถูก ดันเต้ ฟาวเวอร์ กดดันจนขว้างพลาดถูก จอห์น จอห์นสัน เซฟตี้แรมส์อินเตอร์เซปน์ ก่อน แรมส์ จะพลิกชนะ เซนต์ส 26-23 จากการเตะฟิลด์โกลระยะ 57 หลาของ เซอร์ไลน์ ทะยานเข้าสู่'ซูเปอร์ โบวล์'ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1999 

กอฟฟ์ ขว้างคอมพลีต 25 จาก 40 ครั้ง ระยะ 297 หลา ทำหนึ่งทัชดาวน์และเสียหนึ่งอินเตอร์เซปน์ ขณะที่ปีกนอก แบรนดิ้น คุ้กส์ รับบอล 7 ครั้ง ระยะ 107 ส่วนรันนิ่งแบ็ก ซี.เจ.แอนเดอร์สัน ถือบอลวิ่ง 16 ครั้ง ระยะ 44 หลา แต่ ท็อดด์ เกอร์ลี่ย์ วิ่งได้เพียง 10 หลาแต่มีหนึ่งทัชดาวน์ 

ส่วน บรีส์ ขว้างคอมพลีต 26 จาก 40 ครั้ง ระยะ 249 หลา ทำ 2 ทัชดาวน์และเสียหนึ่งอินเตอร์เซปน์ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ขณะที่ แอลวิ่น คามาร่า รับบอล 11 ครั้ง ระยะ 96 หลา ส่วน ไมเคิ่ล โธมัส ปีกนอกตัวท็อปรับบอลเพียง 4 ครั้ง ระยะ 63 หลา