ซาร์รี่ เม้งแตกเมื่อสัปดาห์ก่อนหลังเกม 'ลอนดอน ดาร์บี้' ซึ่งพ่ายต่อ อาร์เซน่อล 0-2 โดยใช้คำรุนแรงว่า - ผลงานทุเรศ รับไม่ได้ - เป็นภาษาอิตาเลี่ยน เพื่อไม่ให้แปลเจตนาหรือความหมายคลาดเคลื่อน 

เป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องบานปลายในการประชุมทีมต้นสัปดาห์ถึงขั้นแลกน้ำลายโต้เถียงกับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ฐานะกัปตันขอเป็นกระบอกเสียงแทนทีมเมตตอบโต้ว่าโค้ชพูดแรงไป 

เกาเหลาชามโตนี้เองที่ กุทลิท มองว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นไล่โค้ชเหมือนอย่างที่ โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ เคยโดนมาแล้ว 

https://twitter.com/BBCSport/status/1089088302697857027

หน้าฉากแย้มยิ้ม หลังฉากเอามีดแทงข้างหลังที่ เดอะ บริดจ์

"การวิจารณ์ลูกทีมต่อหน้าสาธารณะอย่างที่ ซาร์รี่ เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นหมากที่เดิมพันสูง มันเสี่ยงเอามากๆ - ต่อให้คุณคิดว่าตัวเองทำถูกก็ตาม" ความเห็นจากอดีตคนในผ่านคอลัมน์ใน 'บีบีซี แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์' 

"บางครั้งฐานะ ผจก.ทีม ต้องการแสดงออกให้นักเตะทราบว่าคุณคิดอะไรอยู่ไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย ในเหตุผลอันถูกต้อง หากมันเวิร์กผู้เล่นก็จะไปถูกทาง" 

"แต่หากมันออกมาตรงกันข้าม เกิดผู้เล่นตีความผิด แน่นอนว่างานเข้าที่ผจก.ทีม เต็มๆ" 

"อีกอย่างที่คุณพลาดคือไม่ควรนำเรื่องพรรค์นี้ไปพูดผ่านสื่อฯ อย่างกรณีของ เชลซี ไม่มีใครที่ได้ประโยชน์เลยนอกจากยอดขาย นสพ." 

ก็ต้องติดตามว่า ซาร์รี่ จะได้อยู่คุมทีมถึงซีซั่น 2019-20 หรือไม่เพราะจากประวัติเก่า ณ เดอะ บริดจ์ หากโค้ชคนไหนนักเตะไม่ศรัทธาพวกเขาพร้อมเตะไล่ทันที