ดอร์ทมุนด์จัด คริสเตียน พูลิซิช, มาร์โค รอยส์ และ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ทำเกมอยู่ข้างหลัง มาริโอ เกิทเซ่ ส่วนเบรเมนมี  มิล็อต ราชิก้า จับคู่กับ มักซ์ ครูเซ่ ในแดนหน้า

เริ่มเกมมานาทีที่ 5 กองเชียร์เจ้าถิ่นต้องช็อกเมื่อเสียประตูให้ทีมเยือนไปก่อนจากจังหวะที่เล่นฟรีคิกที่ มักซ์ ครูเซ่ เปิดยัดเข้าเขตโทษให้ มิล็อต ราชิก้า พุ่งเข้าไปสะกิดเปลี่ยนทางเล็กน้อยก่อนบอลพุ่งตุงตาข่าย

ดอร์ทมุนด์เกือบตีเสมอได้ในนาที 15 คริสเตียน พูลิซิช เปิดบอลจากขวาเข้ากลางให้ มาริโอ เกิทเซ่ ไขว้ระยะ 12 หลาแต่บอลถากเสาออกหลังนิดเดียว 

เบรเมน เกือบหนีอีกลูกในนาที 33 เมื่อ ดาวี่ คลาสเซ่น ลุยขึ้นทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ มิล็อต ราชิก้า  ยิงแต่โดนไม่ดีนักทำให้บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย 

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เบรเมนมาเสียฟรีคิกหน้าเขตโทษตัวเองจากจังหวะทำฟาวล์ของ ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้ ที่ดักใส่ อักเซล วิตเซล ก่อนเป็น มาร์โค รอยส์ รับหน้าที่ปั่นเสียบสามเหลี่ยมงามหยด ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1 

ครึ่งหลังนาที 54 เบรเมนได้ลุ้นก่อนเมื่อ  ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่ ตอกส้นให้ มักซ์ ครูเซ่ กดด้วยซ้ายเต็มข้อหน้าเขตโทษ เอริค เอลช์ลาเกิ่ล ต้องออกแรงพุ่งปัดหลายมือออกหลังหวุดหวิด

จากนั้นทั้งสองทีมหาโอกาสจบกันแทบไม่ได้ เกมส่วนใหญ่มักไปตามหน้าปากประตูของอีกฝ่าย 

นาที 89 เบรเมนเกือบได้ประตูชัยเมื่อได้ฟรีคิกเยื้องไปทางขวา มักซ์ ครูเซ่ ปั่นด้วยซ้ายบอลไปแฉลบ พูลิซิช ก่อนที่ เอลช์ลาเกิ่ล จะซูเปอร์เซฟช่วยดอร์ทมุนด์เอาไว้ได้ ทำให้จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ

ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ดอร์ทมุนด์ ได้ประตูนำ 2-1 ในนาที 105 เมื่อ คริสเตียน พูลิซิช ได้บอลกลางสนามก่อนลากจี้ถึงหน้าเขตโทษเบรเมนแล้วชิ่งกับ อัลกาเซร์ ก่อนรับบอลแล้วยิงด้วยซ้ายลอดขาด ยิรี พาฟเลนก้า ตุงตาข่าย

แต่อีก 3 นาทีถัดมา เบรเมน ก็ตามเสมอเมื่อ เควิน โมห์วัลด์ ผู้เล่นสำรองเปิดบอลไปติด อักเซล วิตเซล ก่อนเด้งเข้าทาง เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ หัวหอกจอมเก๋าวัย 40 ปีได้กระดกหนี เอริค เอลช์ลาเกิ่ล ก่อนหมุนตัวยิงมุมแคบเข้าไปอย่างสุดยอด สกอร์เป็น 2-2

แต่ดอร์ทมุนด์ก็นำอีกครั้งในนาที 113 จากจังหวะที่ มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์ ลากลุยฝั่งขวาถึงสุดเส้นก่อนเปิดเข้ากรอบ 6 หลาให้ อาชราฟ ฮาคิมี่ ซัดนิ่มๆ ไม่เหลือเป็น 3-2 โดยที่เบรเมนพยายามประท้วงว่าผู้เล่นดอร์ทมุนด์ทำแฮนด์บอลตั้งแต่กลางสนามแล้ว

เกมดราม่าไม่หยุดเมื่อเบรเมนไล่ตีเสมอ 3-3 ในนาที 118 เมื่อ มักซ์ ครูเซ่ เปิดบอลให้ มาร์ติน ฮาร์นิค อีกหนึ่งสำรองโขกจ่อๆ ตุงตาข่าย ก่อนจบ 120 นาทีด้วยสกอร์นี้ ทำให้ต้องดวลจุดโทษตัดสิน 

ในช่วงการดวลจุดโทษ ปรากฏว่า แวร์เดอร์ เบรเมน ยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะไป 4-2 สกอร์รวมเป็น 7-5 ได้ผ่านเข้ารอบต่อไป ส่วนดอร์ทมุนด์ตกรอบคาบ้าน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ดอร์ทมุนด์ : เอริค เอลช์ลาเกิ่ล -  อับดู ดิยัลโล่, ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล, โอเมอร์ โทพรัค, อาชราฟ ฮาคิมี่ - อักเซล วิตเซล, โธมัส เดลานีย์ - คริสเตียน พูลิซิช, มาร์โค รอยส์, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ - มาริโอ เกิทเซ่ 

เบรเมน : ยิรี พาฟเลนก้า - เซบาสเตียน ลังคัมพ์, นูริ ซาฮิน, นิคลาส มอยซานเดอร์ - ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่, มาริโอ เอ็กเกชไตน์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, ดาวี่ คลาสเซ่น, ลุดวิก ออกุสตินสัน - มิล็อต ราชิก้า, มักซ์ ครูเซ่