อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลไทย ยอมรับว่าการเจอกับ มาเลเซีย ในนัดชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ 2017 จะแตกต่างไปจากเกมรอบแรกที่เราเอาชนะมา 5-1 อย่างแน่นอน

"สำหรับนัดชิงชนะเลิศที่เจอกับมาเลเซียต้องบอกว่าเป็นงานยากของทีมไทยแน่นอน เพราะทรงบอลของมาเลเซียดีขึ้นมาก เกมกับเวียดนามบอกได้เลยว่าพวกเขาทำได้ดีกว่าจริงๆ ไม่ไช่ชนะแบบมีโชค แต่มาจากรูปแบบการเล่นที่เหนือกว่า เล่นด้วยความมั่นใจ โต้กลับดี โอกาสยิงมากกว่า"

"ผู้เล่นอย่าง ไครุล (เบอร์ 7) ก็มีความเร็วและอันตราย นักเตะไทยก็เคยเจอและเสียประตูเพราะเขาในเกมที่แล้ว ตัวนี้เคยมาเล่นลีกที่เมืองไทยกับกรุงเทพธนบุรีมาแล้วด้วย ดังนั้นเกมในนัดชิงชนะเลิศเราต้องเล่นด้วยสมาธิและเต็มประสิทธิภาพ เราจึงจะหยิบถ้วยแชมป์กลับบ้านได้"

ส่วน โฆเซ มาเรีย ปาซอส เมนเดส 'ปูลปิส' กุนซือทีมฟุตซอลไทยก็เผยถึงนัดชิงชนะเลิศว่า "มาถึงรอบชิงแล้วเป้าหมายคือแชมป์เท่านั้น การเจอกับ มาเลเซีย จะไม่เหมือนเกมรอบแรกแน่นอน เพราะพวกเขาสามารถยกระดับและพัฒนาฟอร์มได้ดีขึ้นมาก และพิสูจน์ให้เห็นในการเจอกับเวียดนามแล้วว่าทำได้ดีมากแค่ไหน เราจะต้องเล่นด้วยความรัดกุมและไม่ประมาท ซึ่งถ้าเราเล่นได้ตามมาตรฐาน และเล่นได้ตามแท็กติกที่เตรียมไว้เชื่อว่าเราจะทำได้ตามเป้าหมายแน่นอน"

ด้าน นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งทีมโต๊ะเล็กไทยเผยว่า "เกมนัดชิงเป้าหมายของทุกคนคือชัยชนะ การเจอกับ มาเลเซีย อีกครั้งพวกเขาจะไม่เหมือนเดิมแน่นอน เราจะต้องไม่ประมาท ก็ขอแรงใจแรงเชียร์จากแฟนฟุตซอลชาวไทยทุกคนช่วยส่งมาให้กำลังใจเราด้วย นักเตะทุกคนจะทำผลงานให้ดีที่สุด"

ส่วนสถานการณ์ของทีมไทยที่จะไล่ล่าแชมป์สมัย 13 ล่าสุด ทาง วรุต หวังสะมะแอล เกิดอาการปวดท้องขึ้นมาอีกครั้งที่แผลเก่าเป็นหนองที่ช่องท้องซึ่งเจ้าตัวฝืนเล่นมาตั้งแต่แมตช์ที่สอง และล่าสุดอาการหนองลุกลามไปยัง วีรศักดิ์ ศรีไชย ซึ่งเป็นฝีที่แขนขึ้นมาอีก 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่ต้องพาไปส่งตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งในรายของ วรุต ยังต้องลุ้น แต่ทาง วีรศักดิ์ น่าจะลงสนามได้

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการวอร์มและอบอุ่นร่างกายที่โรงแรมเฟิร์สเวิลด์ที่พัก ส่วนช่วงเย็น 'บิ๊กป๋อม' ได้เลี้ยงอาหารนักกีฬาที่ร้านไทยเฮ้าส์บริเวณใกล้กับสนามบิน ก่อนลงเตะนัดชิงชนะเลิศชิงแชมป์อาเซียน 2017 กับ มาเลเซีย ในวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2017 เวลา 19.00 น.