การแข่งขันฟุตบอล ไซปรัส คัพ 2019 นัดชิงอันดับ 7 ณ สนาม ทาซอส มาร์โก้ ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 3 กลุ่มบี พบกับ ไนจีเรีย ทีมอันดับ 3 กลุ่มซี

ชบาแก้ว อยู่อันดับที่ 29 ของโลก ขณะที่ ไนจีเรีย อยู่อันดับ 39 ของโลก โดยผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งสองทีม ชนะ 1 และ แพ้ 2 มี 3 คะแนนเหมือนกัน

เกมนี้ หนึ่งฤทัย สระทองเวียน หมุนเวียนผู้เล่นหลายคนลงสนาม โดยแดนหน้ามีนักเตะอย่าง กัญญาณัฐ เชษฐบุตร พร้อมด้วยกำลังเสริมอย่าง รัตติกาล ทองสมบัติ และ อรทัย ศรีมะณี

เริ่มเกมมา 17 นาที ไนจีเรีย มาได้ลุ้นก่อนจากจังหวะฟรีคิกที่ ฟรานซิสก้า ออร์เดก้า ได้ยิงแต่บอลหลุดกรอบออกไป

นาทีต่อมา กัญญาณัฐ เชษฐบุตร ได้ลองยิงไกลบ้างแต่บอลเบาไปเข้ามือผู้รักษาประตู

นาที 23 ไนจีเรียมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับแล้วเป็น อซิซาส โอโชอาล่า ที่ยิงเข้าไปให้อินทรีมรกตสาว ยิงนำก่อน 1-0

นาที 27 ไนจีเรียมาได้ประตูนำห่างจากฟรีคิก ที่โยนเข้าไปและเป็น โอโนเบ้ เอบิ ที่โฉบมาเปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ทีมจากกาฬทวีปนำห่างเป็น 2-0

นาที 35 ชบาแก้วน่าได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ วารุณี เพ็ชรวิเศษ ที่พาบอลลุยขึ้นมา ก่อนจ่ายให้ สุชาวดี นิลธำรงค์ ยิงแต่บอลยังเบาเกินไป และไม่มีประตูเพิ่มเติม จบครึ่งแรก เป็นไนจีเรีย ที่นำ ไทย อยู่ 2-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสนุก แต่เป็นไนจีเรีย ที่คมกว่า นาที 73 เป็น อนาม อิโม ที่ยิงเข้าไปให้สกอร์ห่างเป็น 3-0

ท้ายเกม ชบาแก้วโหมบุกอย่างหนักเพื่อตีไข่แตกแต่ไม่สำเร็จ จบเกม ไนจีเรีย เอาชนะ ไทยไป 3-0

ทำให้ไทย จบด้วยการเป็นอันดับ 8 จาก 12 ทีมในการแข่งขันฟุตบอลไซปรัส คัพ 2019

สำหรับฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จะเดินทางกลับประเทศไทย ทันที โดยจะถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในวันที่ 8 มีนาคม 2562 เวลา 12.30 น.

รายชือ 11 ตัวจริง

ญาดา เซ่งย่อง (GK), พิสมัย สอนไสย์, วารุณี เพ็ชรวิเศษ, ณัฐกานต์ ชินวงษ์, สุดารัตน์ ชูชื่น - วิลัยพร บุตรด้วง, ศิลาวรรณ อินต๊ะมี, อรทัย ศรีมะณี, ขวัญฤดี แสงจันทร์, รัตติกาล ทองสมบัติ, กัญญาณัฐ เชษฐบุตร