เคมบ้า วอลเกอร์ การ์ดดาวเด่นทำ 18 คะแนนจากทั้งหมด 36 แต้มในช่วงควอเตอร์สุดท้ายนำ ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ คัมแบ็กจากตามหลัง 18 แต้มฮึดแซงชนะ บอสตัน เซลติกส์ 124-117 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามรายงานข่าวจากอีเอสพีเอ็น

วอลเกอร์ ทำ 36 แต้ม, 11 รีบาวน์ดกับ 9 แอสซิสต์ โดยทำถึง 18 แต้มในช่วงควอเตอร์สุดท้าย ขณะที่ ไมลส์ บริดเจส สกอร์ 20 แต้ม, 7 รีบาวน์ดกับ 3 แอสซิสต์, มาร์วิน วิลเลียมส์ กับ ดเวย์น เบคอน ช่วยอีกคนละ 13 กับ 11 คะแนน ส่วนการ์ดสำรอง แมลิค มังค์ ลงมาช่วยทำอีก 13 คะแนน

คายรี่ เออร์วิ่ง การ์ดดาวดังทำมากสุดของ เซลติกส์ สกอร์ 31 แต้ม, 7 รีบาวน์ดกับ 6 แอสซิสต์, เจย์เลน บราวน์ การ์ดสำรองลงมาช่วยทำอีก 29 แต้ม, มาร์คัส มอร์ริส สกอร์ 15 แต้ม, 9 รีบาวน์ดกับ 4 แอสซิสต์, เจย์สัน เททั่ม ทำ 12 แต้ม, 6 รีบาวน์ดกับ 4 แอสซิสต์ ส่วนอีกหนึ่งการ์ดสำรอง เทอร์รี่ โรเซียร์ ลงมาช่วยเติมอีก 12 คะแนน

'คุณแค่เล่นต่อไปเรื่อยๆ'วอลเกอร์ กล่าวหลังสกอร์ 36 แต้มซึ่งเป็นการทำอย่างน้อย 30 คะแนนเกมที่ 23 ในซีซั่นนี้ 'ในลีกนี้ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อทีมหนึ่งมีแรงผลักดัน สิ่งต่างๆสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว'การ์ดดาวดังกล่าวหลังนำฮอร์เน็ตส์คัมแบ็กกลับมาเป็นฝ่ายชนะหลังการรันแต้ม 30-5 จากที่ตามหลัง 94-112 เมื่อเหลือเวลาอีก 8.22 นาทีช่วงควอเตอร์สุดท้าย

ขณะที่ แบร็ด สตีเว่นส์ โค้ชเซลติกส์ยอมรับหลังเกมว่า'เห็นได้ชัดว่าเมื่อคุณพ่ายแพ้จากที่เป็นฝ่ายนำ 18 แต้ม มีหลายสิ่งหลายอย่างผิดพลาด ผมคิดว่าพวกเขาทำงานได้ดีมากในการพลิกสถานการณ์กลับมาและเราทำทุกอย่างที่หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อแพ้เกมทั้งที่เป็นฝ่ายนำ 18 คะแนน'

ส่วน เออร์วิ่ง กล่าวด้วยความเสียดายว่า'เกมนี้จบลงในช่วงต้นของควอเตอร์ 4 เราผ่อนคันเร่งและโมเมนตัมของเกมก็เปลี่ยนไปหลังจากนั้น'

ฮอร์เน็ตส์ คัมแบ็กกลับมาเป็นฝ่ายชนะจากเกมที่ตาม ชิคาโก้ บูลล์ส 15 คะแนนก่อนแซงชนะ 125-118 ส่วนการคัมแบ็กดีสุดในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2018 ที่พลิกชนะ บรู้กลิน เน็ตส์ จากที่เป็นฝ่ายตามหลัง 23 คะแนน