เกมนี้สลับมาเล่นยัง โตโยต้า เซนเตอร์ บ้านของ 'จรวดมหาปลัย' รูปแบบการเล่นของทั้งสองฝ่ายเน้นป้องกันเหนียวแน่นเหมือนเกมที่ 4 ของซีรี่ส์ กว่าจะได้ส่องแต่ละครั้งกินเวลาจนเกือบหมดช็อตคล็อค 

ปรากฎว่าลูกแม่นยำของ ร็อคเก็ตส์ ดีกว่านำโดย ฮาร์เด้น 26 คะแนน, 6 รีบาวน์ด, 6 แอสซิสต์, 4 บล็อค และสามสตีล เมื่อรวมกับตัวจริงคนอื่นอย่าง คลินท์ คาเพล่า ( 16 แต้ม), คริส พอล เท่ากับ เอริค กอร์ดอน ( 15 แต้ม) หรือ พี.เจ. ทัคเกอร์ ( 8 แต้ม) เมื่อผสานสำรอง 4 จาก 5 ราย มีแต้ม จึงสยบลงไปได้ท้ายควอเตอร์#4 

"วันนี้มีหลายช็อตที่น่าจะยิงลงแต่ทำไม่สำเร็จ ... แต่ด้วยเพราะ 2-3 นัดหลังเราผนึกกำลังเล่นเกมรับอย่างโดดเด่น" ฮาร์เด้น กล่าวหลังเกม 

https://twitter.com/NBATV/status/1121249337667776512

ฮาร์เด้น หลังเกมปิดซีรี่ส์รอบแรก

แมตช์ล่าสุด ร็อคเก็ตส์ กดไป 12 สตีล, 12 บล็อค นับเป็นผลงานสองหลักในเกมป้องกันช่วงเพลย์ออฟอีกครั้งของทีมตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งคราวนั้นพวกเขาได้แชมป์ เอ็นบีเอ 

ปัจจัยหนึ่งที่ แจซ เล่นไม่ออกคือ โดนาวาน มิทเชลล์ การ์ดมือสกอร์โดน ฮาร์เด้น กับ คริส พอล สลับประกบส่งผลต่อฟิลด์โกลแค่ 4 จาก 22 ครั้ง มีเพียง 12 คะแนน 

"นัดก่อนหมอนั่นเล่นอย่างมั่นใจ ฟอร์มของเขามีส่วนสำคัญให้ชนะเกม ดังนั้นจึงต้องตัดตอน เพราะเมื่อใดก็ตามปล่อยให้เล่นง่ายๆ ... มีแต่ขอบฟ้าเท่านั้นขวางกั้นฟอร์มไว้ได้" แบ็คคอร์ทดีกรี เอ็มวีพี ให้กำลังใจการ์ดรุ่นน้องร่วมวงการ 

ร็อคเก็ตส์ ผ่านไปรอในเพลย์ออฟ รอบสอง ฝั่งตะวันตก พบผู้ชนะระหว่าง โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส หรือ แอลเอ คลิปเปอร์ส โดยฝ่ายแรกนำอยู่ 3-2 เกมซีรี่ส์