ที่ สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ เป็นเกมรอบชิงชนะเลิศ เฟร้นช์ คัพ ระหว่าง แรนส์ ดวลกับ เปแอสเช ที่ส่ง เนย์มาร์ และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ลงสนามในแนวรุกร่วมกับ อังเคล ดิ มาเรีย

เริ่มเกมมาได้เพียง 13 นาที ปารีส ออกนำ 1-0 จากลูกเตะมุมทางซ้าย เนย์มาร์ สาดมาหน้าเขตโทษให้ ดานี่ อัลเวส วางเท้าวอลเล่ย์ด้วยขวาส่งบอลเสียบตาข่ายสุดสวย

จากนั้นในนาทีที่ 21 เปแอสเช นำห่าง 2-0 เมื่อทาง อังเคล ดิ มาเรีย แทงเข้าช่องมาให้ เนย์มาร์ หลุดเดี่ยวไปชิพบอลข้ามหัว โทมัส คูเบ็ค เข้าไปแบบเหนือชั้น

เกมที่ทำท่าว่าจะง่ายของ ปารีส กลับต้องมาโดนเจาะตาข่ายในนาทีที่ 40 อามารี่ ตราโอเร่ เติมมาทางขวาก่อนจะสาดบอลเข้าในไปโดน เพรสแนล คิมเพมเบ้ พยายามสกัดแต่บอลเปลี่ยนทางผ่าน อัลฟองส์ อาเรโอล่า เข้าไป 1-2

ครึ่งหลังนาทีที่ 66 แรนส์ ตามตีเสมอ 2-2 จากเตะมุมทางซ้าย เกลม็องต์ เกรอนิเย่ร์ สาดมาเสาแรกให้ เอ็ดซอน เมแชร์ กองหลังสอดมาโขกเสียบตาข่ายไม่เหลือ

หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่มจบเกมเสมอกันไป 2-2 ต้องไปสู้กันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 100 เปแอสเช พลาดโอกาสออกนำเมื่อทาง คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ รับบอลในเขตโทษก่อนจะสับไกส่งบอลชนเสาเต็มๆ 

ปารีส บุกหนักมากแต่จังหวะจบไม่เด็ดขาดแถมช่วงนาทีที่ 118 ต้องมาเหลือ 10 คนเมื่อทาง เอ็มบั๊ปเป้ ไปเหยียบหน้าแข้งของ ดาเมียง ดา ซิลวา ทำให้โดนไล่ออกไปทันที

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีอะไรเกิดขึ้นหมด 120 นาทียังเสมอกันและต้องไปดวลจุดโทษเพื่อตัดสินหาผู้ชนะในนัดนี้ ปรากฏว่าเป็น แรนส์ ทำได้ดีกว่าเอาชนะไปได้  พร้อมกับคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ไปครองซึ่งเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1971