รายงานจาก 'เดลี่ เมล' แท็บลอยด์เมืองผู้ดีถึงเบื้องหลังเกมที่ คัมป์ นู วานนี้ซึ่ง บาร์ซ่า ก้าวขาเข้าชิงชนะเลิศหนึ่งข้าง เมื่อถล่ม 'หงส์แดง' 3-0 สมคำสัญญที่ ลีโอเนล เมสซี่ เคยประกาศไว้กับ 'กูเล่' ก่อนเปิดซีซั่น 2018-19 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ 'เดอะ ค็อป' กังขาคือฟอร์มของ โรเบิร์ตสัน ซึ่งปกติผิดพลาดน้อย มีความนิ่ง ทว่า 45 นาทีหลังกลับดูหลุดๆ มีส่วนกับสกอร์ 0-2 ที่เบียด เซร์จี้ โรเบร์โต้ ตะลุยเข้ากรอบเขตโทษไม่อยู่ 

สืบเสาะมาพบว่าเพราะกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ไปโดน ซัวเรซ หาเรื่องระหว่างเดินเข้าล็อคเกอร์ รูม ตอนพักครึ่งเวลา ทั้งคู่ต่อปากต่อคำกัน แต่พฤติการณ์ของสตาร์อุรุกวัยคุกคามจน 'ร็อบโบ้' หน้าเสีย เดือดร้อนทีมเมตต้องมาแยกออก 

ซัวเรซ เลือกเป้าแบ็กซ้ายคู่แข่ง หาเรื่องป่วนจนเป็นนิสัย

สอดคล้องกับรายงานจาก ไมเคิ่ล โอเว่น ผู้สื่อข่าวภาคสนาม 'บีที สปอร์ต' ซึ่งประจำในอุโมงค์ใต้ถน คัมป์ นู "มีการเผชิญหน้าปะทะคารมระหว่างจบครึ่งแรกในบริเวณทางเดินก่อนเข้าห้องพัก ซัวเรซ เข้ามาหาเรื่อง โรเบิร์ตสัน หลังจากทั้งคู่มีปากเสียงกันมาระหว่างแข่ง" 

นับเป็นลูกไม้เก่งของ ซัวเรซ จอมไซโค เพราะมักป่วนประสาทกองหลังคู่แข่งให้สติหลุด โดยเฉพาะพวกแบ็กซ้าย ในอดีตก็เคยบดบี้กับ ปาทริซ เอวร่า ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงขั้นด่าพ่อ-ล่อแม่ แขวะเชิงเหยียดผิวมาแล้ว 

คาดว่าเกมเลกสองที่ แอนฟิลด์ (7 พ.ค.) เดอะ ค็อป น่าจะละความรักที่เคยมีต่อสตาร์วัย 32 ปี ตลอดช่วงเวลา 2011-14 มาเป็นแรงพยาบาทโห่กดดันจนเล่นไม่ออก