เอียน ราโพพอร์ท ผู้สื่อข่าวเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คยืนยันว่าความขัดแย้งระหว่าง อดัม เกส กับ ไมค์ แม็คแคนแย่น เป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้ฝ่ายหลังถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ นิวยอร์ค เจ็ตส์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา 

ประเด็นความขัดแย้งหลักๆระหว่าง เกส กับ แม็คแคนแย่น มาจากเซ็นสัญญากับฟรีเอเจนต์ตัวดังอย่าง เลอวีออน เบลล์ กับ ซี.เจ.มอสลี่ย์ แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นที่ เกส ชื่นชอบก็ตาม แต่หัวหน้าโค้ชเจ็ตส์มองว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่เสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็นของ แม็คแคนแย่น อีกทั้งตัวผู้เล่นที่เขาต้องการดึงมาร่วมทีม แต่อดีตจีเอ็มเจ็ตส์กลับไม่ทำตามความต้องการ 

'อดัม เกส ชอบ เลอวีออน เบลล์ เพียงแค่ไม่ชอบการใช้จ่ายเงินจำนวนมากสำหรับผู้เล่นตำแหน่งนั้น'ราโพพอร์ท กล่าวถึงการเซ็นสัญญา 4 ปี มูลค่า 52.5 ล้านเหรียญสหรัฐกับอดีตตัววิ่ง พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส 

'มันเป็นเพียงตำแหน่งรันนิ่งแบ็กเท่านั้น เขาชื่นชอบผู้เล่นเพียงแค่ไม่ชอบราคาที่จ่าย'

เจ็ตส์ ยังใช้เงินอีกจำนวนมากเซ็นสัญญา 5 ปี มูลค่า 85 ล้านเหรียญสหรัฐกับ ซี.เจ.มอสลี่ย์ อดีตไลน์แบ็กเกอร์ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ ซึ่งเป็นเงินการันตีสูงถึง 51 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรับเฉลี่ยถึงปีละ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ 

'ผมได้รับการบอกเล่าว่า เกส ไม่ต้องการจ่ายมากกว่าปีละ 13 ล้านเหรียญสหรัฐ'ราโพพอร์ท ขยายความ 'ดังนั้นความขัดแย้งในเรื่องราคาจึงเป็นเรื่องที่มีความชัดเจนมาก'

ราโพพอร์ท ยังแฉต่อว่า เกส ต้องการผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์อย่าง แม็ตต์ พาราดิส แต่ แม็คแคนแย่น ไม่เห็นด้วยก่อน พาราดิส จะเซ็นสัญญากับ แคโรไลน่า แพนเธอร์ส 

'สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เพิ่มมากขึ้นและจากสิ่งที่ผมสามารถบอกได้ดูเหมือนว่า (ซีอีโอเจ็ตส์และประธานทีม) คริสโตเฟอร์ จอห์นสัน ใช้เวลามากพอสมควรในการประเมินความสัมพันธ์นี้ก่อนเข้าสู่ช่วงดราฟท์และหลังจากนั้นก็รอดูทิศทางที่เขาต้องการไปและตัดสินใจชัดเจนประมาณ 7 โมงเช้าว่านั่นไม่ใช่'