เกมที่ 4 ของซีรี่ส์เมื่อวันจันทร์แข่ง ณ โมด้า เซนเตอร์ โดยมีช่วงที่แชมป์เก่า 2 สมัย ตามหลังมากสุด 17 คะแนน ทว่าก็ค่อยๆไล่บี้จนตีเสมอลากการแข่งขันถึงโอเวอร์ ไทม์ กระทั่งแซงเฮจนได้ที่ 119-117 แต้ม 

"เราผ่านถึงจุดนี้มาก่อน เราเห็นมาหมดทุกสถานการณ์ ทุกๆประสบการณ์ที่สัมผัสแล้วทำให้คุณนึกภาพออก เราก็แค่งัดมันออกมาใช้" สเต็ปห์ ซึ่งกดทริปเปิ้ล-ดับเบิ้ล  37 แต้ม, 12 รีบาวน์ด และ 11 แอสซิสต์ แสดงความเห็น 

https://twitter.com/NBATV/status/1130702688570683393

เคอร์รี่สัมภาษณ์หลังเกม

"ทีมตระหนักว่ามันยากแค่ไหนในการชนะเกมเพลย์ออฟ แต่ทั้งนี้เราก็มองให้เล็กลงมาว่านี่คือหนึ่งเกมจากทั้งซีรี่ส์ ก็เพียงรักษาระดับที่เคยทำสำเร็จของตัวเองไว้"

"รวมถึงนำบทเรียนจากเมื่อปี 2016 (แพ้รอบชิงฯ ต่อ คาวาเลียร์ส ทั้งที่ขึ้นนำ 3-1 เกม) จำว่ารู้สึกแย่แค่ไหน แล้วก้าวลงสนามไปสู้ พยายามทำให้ดีกว่าเดิม"

"คิดว่าแนวทางที่เราเล่นในแต่ละคืนยังไม่สามารถเรียกได้ว่าสุดยอดได้ เพราะมันวิเศษแค่ไหนแล้วที่มีโอกาสแข่งเพลย์ออฟ แค่ต้องรักษาความกระหาย ตระหนักว่าหากถอนคันเร่งก็สามารถแพ้ได้ แต่ผลงานรวมๆมันก็น่าภาคภูมิ" 

"ยิ่งกำลังจะมีโอกาสเป็นแชมป์ 4 จาก 5 ซีซั่นหลังสุด ดังนั้นต้องล็อคให้อยู่มือ" 

อนึ่งเกมนี้ วอร์ริเออร์ส ขาดฟร้อนท์คอร์ทตัวจริงอย่าง เควิน ดูแรนท์ (น่อง), เดอมาร์คัส คัสซิ่นส์ (ต้นขา) หรือ อันเดร อิกัวดาล่า (น่อง) แต่ยังสามารถเข้าชิงแชมป์ เอ็นบีเอ ต่อเนื่องปีที่ 5 โดยตั้งแต่ บอสตัน เซลติคส์ ทำไว้ 10 หนติด (1957-1966) ก็ไม่มีค่ายใดทำได้ระดับนี้มาก่อน