เริ่มเกมมาไม่ถึงนาที หงส์แดง ได้ลูกโทษจากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน่ ยกบอลไปถูก มุสซ่า ซิสโซโก้ โดนจับแฮนด์บอล ดาเมียร์ สโกมิน่า รอสัญญาณจาก วีเออาร์ เล็กน้อยก่อนจะยืนยันคำตัดสิน และเป็น โม ซาล่าห์ สังหารให้ทีมออกนำ 1-0

ลิเวอร์พูล หาโอกาสจบได้ดีกว่านาทีที่ 17 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมสูงมายิงแต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น

จากนั้นนาทีที่ 38 เป็นโอกาสทองอีกครั้งของทีมดังจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ โดยหนนี้เป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้หวดเต็มดอกทำเอา อูโก้ โยริส ต้องปัดบอลข้ามคานออกไป

ครึ่งหลังเกมยังคงเปิดแลกกันแต่จังหวะจบสกอร์ยิงไปติดกองหลังของฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดทั้งสองฝ่าย

รูปเกมดูนิ่งๆไปและไม่มีโอกาสหวาดเสียวเกิดขึ้น จนนาทีที่ 69 ลิเวอร์พูล หวิดได้เม็ดที่สอง ซาดิโอ มาเน่ ลากแหวกมาเองก่อนจะไหลมาให้ โม ซาล่าห์ แตะคืน เจมส์ มิลเนอร์ ตัวสำรองสับไกด้วยซ้ายถากเสาออกไป

โอกาสจบ ไก่เดือยทอง ในนาทีที่ 73 ซน ฮึง-มิน ป้ายออกมาทางซ้ายให้ เดเล่ อัลลี่ ที่ได้ยิงแต่บอลย้อนหลังไปทำให้จังหวะสับไกบอลลอยเหมือนส่งคืนหลังให้ อาลีสซง

นาทีที่ 79 เป็นโอกาสอีกครั้งของ สเปอร์ส หนนี้ คีแรน ทริปเปียร์ เติมมาทางขวาก่อนจะยกเข้าในไปให้ เดเล่ อัลลี่ เทคตัวโขกบอลข้ามคาน

ไก่เดือยทอง มาอีกชุดเริ่มจากจังหวะที่ ซน ฮึง-มิน หวดติดเซฟ อาลีสซง บอลไม่ไปไหนก่อนจะเข้าทาง ลูคัส มูร่า ยิงแต่เบาไปเลยถูกนายด่านฝ่ายตรงจ้ามล้มตัวรับไว้ได้

สเปอร์ส ยังคงกดดันเรื่อยๆเพื่อหวังตีเสมอนาทีที่ 84 ได้เสียวจากฟรีคิกทางซ้ายที่ คริสเตียน เอริคเซ่น หวดด้วยขวาทำเอา อาลีสซง ต้องปัดทิ้งออกไป

กลับเป็น หงส์แดง ที่ได้ประตูที่สองในนาทีที่ 88 จากจังหวะเตะมุมที่กองหลัง ไก่เดือยทอง สกัดไม่ขาดเลยมาเข้าทาง ดิว็อค โอริกี้ ที่ได้หวดด้วยซ้ายเสียบเสาไกล 2-0 

จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ สเปอร์ส ไปได้ 2-0 ส่งผลให้ หงส์แดง คว้าแชมป์รายการนี้ (ยูโรเปี้ยน+แชมเปี้ยนส์ ลีก) เป็นสมัยที่ 6 ของสโมสร