'อินทรีเหล็ก' เพิ่งไล่ถล่ม เอสโตเนีย 8-0 วานนี้ ขณะที่เมื่อสุดสัปดาห์ก็เชือดนิ่ม เบลารุส 2-0 รั้งตำแหน่งอันดับสอง กลุ่มซี มีอยู่ 9 แต้ม ตามหลัง ไอร์แลนด์เหนือ จ่าฝูงสามคะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด 

งานนี้ ซอร์ก ได้รับเสียงชื่นชมเต็มๆจากสื่อฯเมืองเบียร์ ว่าทำหน้าที่สมบูรณ์แบบแทนที่ เลิฟ ซึ่งบาดเจ็บบาร์เบลล์หล่นใส่หน้าอกจนบาดเจ็บหนัก กระทั่งมีคำเชียร์ให้เทกโอเวอร์ไปเลย

อย่างไรก็ตามมือขวาวัย 53 ปี รีบปฏิเสธ ขอโฟกัสที่ผลงานทีมมากกว่า "ผมคงเรียกร้องฟอร์มดีไปกว่านี้ไม่ได้ มันแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้น, ความต้องการ และความแน่วแน่ของทีม" 

“ยิ่งไปกว่านั้นยังได้สร้างความประทับใจแก่แฟนบอล ให้ศรัทธาว่าทีมชาติเราพร้อมเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ ทั้งนี้ผลงานคงเกิดไม่ได้หากทุกฝ่ายไม่ได้ร่วมมือกัน ทุกคนมีส่วนร่วมกับมัน"

"ต้องยกย่องทั้งทีม เพราะแม้กรำศึกอย่างยาวนานกับสโมสร แล้วได้พักแค่ 10 วัน แต่ก็สามารถเค้นความสามารถได้เต็มประสิทธิภาพ" 

https://twitter.com/DFB_Team/status/1138540794489581569

สตาฟฟ์ของเยอรมันที่ไม่มี เลิฟ ดูมีชีวิตชีวา

นอกจากนั้นคลีนชีตวานนี้ยังเป็นการทำสถิติใหม่ในนามทีมชาติของ มานูเอล นอยเออร์ เพราะคือลำดับที่ 37 ฐานะ'อินทรีเหล็ก' ทำลายเรคคอร์ดเดิมที่สร้างโดย เซ็พพ์ ไมเออร์ เมื่อปี 1979 ลงไปได้ 

"สองเกมทีมชาติที่เพิ่งผ่านไป บอกเลยว่าเราสามารถยืดอกได้เลย แต่ทั้งนี้ก็ต้องรักษามันไว้ เรียนรู้กันต่อไป เพื่อคงผลงานเช่นนี้เพื่อมีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์ ซัมเมอร์ 2020" นายด่านวัย 33 ปี กล่าว 

'อินทรีเหล็ก' จะกลับมาเล่นอีกครั้งเดือน กันยายน พบกับ ฮอลแลนด์ ( 6 ก.ย.) และ ไอร์แลนด์เหนือ ( 9 ก.ย.) สองทีมแกร่งร่วมกรุ๊ป