เทรเวลล์ เกนส์ เทรนเนอร์ส่วนตัวของ ท็อดด์ เกอร์ลี่ย์ ยอมรับว่ารันนิ่งแบ็กของ แอล.เอ.แรมส์ มีปัญหาที่ข้อต่อเข่าอักเสบ แต่เขามีแผนการจะที่ลดน้ำหนักตัววิ่งวัย 24 ปีลงเหลือราว 118 ปอนด์ซึ่งน้อยกว่าเดิม 6 ปอนด์เพื่อลดแรงกดดันต่อข้อเข่าและยังเพิ่มความคล่องตัวในเวลาเดียวกันด้วย จากการให้สัมภาษณ์ เดฟ ริชาร์ด ผู้สื่อข่าวของ'ซีบีเอสสปอร์ตส์'เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

'ทุกคนรู้ตอนที่ ท็อดด์ ออกจากจอร์เจียว่ามีส่วนประกอบของข้อต่อเข่าอักเสบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผ่าตัดทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นหัวไหล่, เข่า หรือ ข้อเท้า'เทรนเนอร์ส่วนตัวของรันนิ่งแบ็กแรมส์เปิดเผย

'ตอนนี้เขาเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว สิ่งที่เราทำคือจัดการมัน ถ้าเราสามารถลดใช้เขาน้อยลงในช่วงปิดซีซั่น ขณะเดียวกันทำให้น้ำหนักตัวเขาลดลง ด้วยความแข็งแกร่งของเขาและการทำงานของเขาจะทำได้คล่องตัวในพื้นที่แคบๆ นั่นจะทำให้เขามีโอกาสที่ดีขึ้นที่จะมีสุขภาพดีขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 14 ถึง 17 เมื่อพวกเขานับจริงๆ'

ก่อนหน้านี้ เกอร์ลี่ย์ ยอมรับว่ามันเป็นปัญหาเล็กน้อยและเกนส์ก็ไม่คิดว่ามันจะจำกัดปริมาณงานของเขาในปีนี้ แม้ว่า แรมส์ จะเตรียมพร้อมด้วยการดราฟท์รันนิ่งแบ็ก ดาร์เรลล์ เฮนเดอร์สัน ตั้งแต่รอบ 3 ในปีนี้ก็ตาม 

'มันไม่มีใครบอกผมว่ามีแผนที่จะลดภาระของเขาในสัปดาห์แรก'เกนส์ เปิดเผย 'คุณต้องการรันนิ่งแบ็กที่แข็งแกร่งและพวกเขาคว้า'โฮม-รัน'รันนิ่งแบ็กในรอบ 3 ถ้าคุณดูเกมปีที่แล้ว ท็อดด์ มักจะนั่ง 2 ใน 3 ซีรี่ส์ของปีก่อน ผมจึงไม่เห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นคุณต้องการแบ็คที่สามารถรับบอลได้และผมเชื่อว่า ดาร์เรลล์ มีค่าเฉลี่ยประมาณ 9 หลาต่อการถือบอลหนึ่งครั้ง นั่นเป็นผู้เล่นแบบ'โฮม-รัน''

แม้ เกนส์ จะไม่ทราบว่าแผนของ แรมส์ ที่มีต่อ เกอร์ลี่ย์ คืออะไร แต่สิ่งที่เขากำลังจะทำคือการลดน้ำหนักตัวของรันนิ่งแบ็กวัย 24 ปีเพื่อเพิ่มสปีดความเร็วและลดแรงกดดันต่อหัวเข่าในเวลาเดียวกันด้วย

'มันเป็นการตัดสินใจร่วมกันสำหรับเขาที่จะลงเล่นด้วยน้ำหนักตัวน้อยลงในปีนี้ ไม่ใช่เพราะได้รับบาดเจ็บ เพียงเพราะผมแค่รู้สึก่าเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เร็วสุดของลีก' เกนส์ กล่าวถึงแผนงานกับเกอร์ลี่ย์ 'เขาไม่ต้องเล่นที่ 224 แต่เป็น 118 น้อยลงเพียง 6 ปอนด์เท่านั้น ดังนั้นผมต้องการลดไขมันในร่างกายของเขาลงนิดหน่อยและนำเขาไปยังจุดที่เขาตัวเล็กลงเพื่อให้เขาเร็วขึ้นเล็กน้อย แต่อาจใหญ่ขึ้นเล็กน้อยในส่วนของมวลกล้ามเนื้อ เขาจะเริ่มรีดไขมันในร่างกายจาก 10 เปอร์เซนต์ให้เหลือ 7 เปอร์เซนต์'