แผนการเล่น : 3-4-3

ประตู : แพทริก เดย์โต้ (สุพรรณบุรี เอฟซี) 

นายด่านมือ 3 ทีมชาติฟิลิปปินส์ ได้โอกาสประเดิมเกมแรกทันที แทนที่ สินทวีชัย ที่กำลังจะย้ายออกไป แม้จะมีความกดดันจากการถูกคาดหวัง แต่ แพทริก ไม่มีอาการตื่นสนามให้เห็น แถมยังโชว์ลีลาซูเปอร์เซฟลูกยากๆ เอาไว้ได้หลายครั้ง ที่จริงสัปดาห์นี้มีผู้รักษาประตูโดดเด่นหลายคน แต่หลังจากพิจารณาทุก ๆ คู่ รู้สึกประทับใจฟอร์มของมือกาววัย 29 ปีรายนี้เป็นพิเศษ

กองหลัง : วันชัย จารุนงคราญ (แบงค็อก ยูไนเต็ด)

ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในตำแหน่งวิงแบ็คฝั่งซ้าย ซึ่ง "ไช้" ทำหน้าที่ได้ดีทั้งในเกมรุกและรับ มีจังหวะเติมขึ้นมาประสานงานกับ เนลสัน โบนีญ่า และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ประตูชัยที่ โบนีญ่า ยิงได้ ก็มาจากการจ่ายบอลสุดสวยตัดแนวรับของแบ็ควัย 22 ปีผู้นี้นี่เอง

กองหลัง : มิชาเอล เซโรชตาน (สุพรรณบุรี เอฟซี)

เป็นอีกเกมที่ปราการหลังชาวอิสราเอล โชว์ฟอร์มได้คุ้มค่าตัวทุกบาททุกสตางค์ที่ "ช้างศึกยุทธหัตถี" ลงทุนไปจริงๆ นอกเหนือจากเกมรับที่แข็งแกร่งดุดันมากๆ ยังมีจังหวะขึ้นมาลุ้นจบสกอร์แบบได้เสียวอยู่เรื่อยๆ หาก "มิกิ" มาเร็วกว่านี้ สุพรรณบุรี ก็อาจไม่ต้องมาตกระกำอยู่ในโซนท้ายตารางแบบนี้ก็เป็นได้

กองหลัง : วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ (พีทีที ระยอง)

กัปตันทีมเลือดแซมบ้า เก็บกินหมดทั้งลูกโด่งและภาคพื้นดิน จน สมุทรปราการ หาโอกาสเข้าทำได้ยากเหลือเกิน อีกทั้งยังขึ้นมากดดันในจังหวะเล่นลูกเซ็ตเพลย์ได้ตลอด ช่วงนี้ดูจะเข้าฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งตัว วิคเตอร์ เองและพลพรรค "พลังเพลิง" หลังจากคว้าชัยเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน

กองกลาง : วันเฉลิม ยิ่งยง (พีที ประจวบ)

ปัดกวาดแดนกลางเอาไว้ได้หมด คุมจังหวะเกมและโชว์ให้เห็นถึงความเก๋าในบางจังหวะ เกมนี้ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของ "กิ๊บ" เลยก็ว่าได้ ในการกลับมาเยือนถิ่นเก่าที่ บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม พร้อมกับแชร์ 1 แต้มสำคัญออกไปได้ รวมถึงรับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมนี้ไปครอง 

กองกลาง : สหรัฐ กันยะโรจน์ (พีทีที ระยอง)

"เมสซี่ฟาร์ม" มาตรฐานดีไม่มีตกจริงๆ นี่ก็เป็นอีกเกมที่ดาวเตะจากจ.ลำพูน โชว์ลีลาสุดเพลินตาบนฟลอร์หญ้าที่บางพลี เอาชนะแดนกลางของ "เขี้ยวสมุทร" ครั้งแล้วครั้งเล่า เกมนี้ยิงไปได้ 1 ประตูและเกือบยิงได้อีกหลายจังหวะทั้งลูกชนคาน แถมโชว์คลาสอันเหนือชั้นด้วยการยิงไกลเกินครึ่งสนามเกือบได้ประตู ประกาศชื่อทีมชาติครั้งต่อไป ยังไงก็ควรมีชื่อของเขาจริงๆ 

กองกลาง : จักรพันธ์ พรใส (ราชบุรี มิตรผล)

กลับมาอยู่กับราชบุรีอีกครั้ง และเมื่อยามได้รับโอกาสแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย "บอล" ก็ไม่ทำให้กองเชียร์ต้องผิดหวัง เมื่อจัดการงัดฟอร์มเก่งแอสซิสต์ไป 2 ประตู อีกทั้งมีส่วนร่วมกับทุกประตูที่ทีมทำได้ ถือเป็นตัวเลือกในตำแหน่งปีกที่น่าสนใจหากทีมชาติไทยจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง

กองกลาง : วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี) 

ลีลาคลาสสิกมากๆ อาจจะไม่ต้องกระชากลากเลื้อยให้หวือหวา แต่บอลออกจากเท้าแต่ละครั้งมีความชัวร์เสมอ นัดนี้ยิง 1 จ่าย 1 ให้ "ฉลามชล" บุกไปแบ่งแต้มได้จาก การท่าเรือ แบบเกือบคว้าชัยได้เลยด้วยซ้ำ

กองหน้า : อมาดู อ๊วตตาร่า (นครราชสีมา มาสด้า) 

ขยันวิ่งไม่มีหมด สำหรับปีกชาวไอวอรี่โคสต์ ที่มีจุดเด่นคือความเร็ว และในที่สุดความเร็วและความเฉียบคมของเขาก็ลงโทษแนวรับของ ราชบุรี ได้สำเร็จด้วยการซัดประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย แบบไม่ให้มีโอกาสแก้ตัวได้อีกเลย

กองหน้า : สตีเว่น ล็องจิล (ราชบุรี มิตรผล)

ประสานงานกับ ลอสเซมี่ การาบูเอ้ และ จักรพันธ์ พรใส ได้ไหลลื่นดีเหลือเกิน นอกเหนือจากความคล่องแคล่ว ลีลาการเลี้ยงตะลุยที่เร้าใจแล้วยังมีทีเด็ดจากการจบสกอร์ที่เด็ดขาด เกมนี้เหมาซัดไปคนเดียว 2 ประตู ซึ่งเกือบจะทำให้ทีมเก็บ 3 แต้มได้อยู่แล้วถ้าไม่มาพลาดเสียประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

กองหน้า : เนลสัน โบนีญ่า (แบงค็อก ยูไนเต็ด)   

ในวันที่เกมของ "แข้งเทพ" ดูตื้อตันเหมือนจะหาประตูไม่เจอเสียที ก็ยังมีดาวยิงทีมชาติเอลซัลวาดอร์ผู้นี้คอยเสกประตูให้อยู่เสมอ เกมนี้ โบนี่ เหมาซัดคนเดียว 2 ประตูให้ แบงค็อก แซงกลับมาคว้าชัยเหนือตราด ไปแบบหืดจับ 2-1 พร้อมกับขึ้นมานำตำแหน่งดาวซัลโวแบบเดี่ยวๆ เรียบร้อยแล้ว 

เฮดโค้ช : ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น (พีทีที ระยอง)

"โค้ชโจ" พาทีมคว้าชัย 3 เกมรวดหลังเปิดเลก 2 เป็นต้นมา ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 6 ของตารางได้แบบไม่มีใครคาดคิด ทั้งที่เลกแรกยังป้วนเปี้ยนอยู่ในโซนอันตราย การปรับทัพด้วยการคว้า เดนนิส มูริลโล่ เข้ามารายเดียวกลายเป็นความลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ฟอร์มของ สหรัฐ และ พรปรีชา สอง "เมสซี่" รวมถึงการวางแผนให้ลูกทีมเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบน ทำให้ทุกทีมที่เผชิญหน้าต้องเจอปัญหาหนัก มองตั้งแต่หลังบ้านยันแถวหน้าของ "พลังเพลิง" ชั่วโมงนี้กำลังเปี่ยมด้วยความมั่นใจ ยิ่งเกมล่าสุดที่บุกไปถล่ม สมุทรปราการ รองจ่าฝูงถึงรัง 3-0 ต้องถือเป็นสุดยอดแห่งฤดูกาลของทั้งทีมเลยทีเดียว