แผนการเล่น : 4-3-3

ประตู : วรวุฒิ ศรีสุภา (การท่าเรือ เอฟซี) 

หลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมบอลถ้วย "ปอนด์" ได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาต่อเนื่องในเกมประเดิมคุมทีมของ "โค้ชโชค" ซึ่งนายด่านวัย 27 ปีก็ไม่ทำให้นายใหม่ผิดหวัง โชว์ฟอร์มเซฟอุตลุด ในเกมที่ "สิงห์เจ้าท่า" เล่นไม่ออกเท่าที่ควร แต่ด้วยความเหนียวหนึบของผู้รักษาประตู บวกกับประูตูชัยจาก เอเลียส ดอเลาะห์ ทำให้กลับมาเก็บ 3 แต้มครั้งแรกในรอบ 7 นัดได้

กองหลัง : ชิติพัทธ์ แทนกลาง (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

"แบงค์" โดดเด่นมากๆ ในจังหวะป้องกันที่เกือบเสียท่าให้กับ สมุทรปราการ ทั้งจังหวะบล็อกลูกยิงของ อิ๊บสัน เมโล่ และการสไลด์กวาดบอลออกจากหน้าประตูระยะไม่เกิน 2 หลา ที่ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ เปิดเลียดเข้ามา ซึ่งถือเป็นจังหวะสำคัญที่ทำให้ "ปราสาทสายฟ้า" รักษาความได้เปรียบก่อนจะบุกคว้าชัยไปได้แบบสวยงาม

กองหลัง : ปริญญา อู่ตะเภา (ชัยนาท ฮอร์นบิล)

"กัปตันปิ่น" ช่วยเกมรับหน้าที่หลักได้เป็นอย่างดี ในการรับมือกับ อภิวัฒน์ และ เดนนิส มูริลโล่ ของเจ้าถิ่น  และยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เขากลายเป็นฮีโร่ของทีมเมื่อขึ้นมาโหม่งลูกฟรีคิกเป็นประตูชัยให้ "นกใหญ่" เก็บ 3 แต้มสุดสำคัญ พร้อมกับยัดเยียดความปราชัยเกมแรกให้ "พลังเพลิง" ในเลกสอง 

กองหลัง : อัลบาโร่ ซิลบา (สุพรรณบุรี เอฟซี)

ปราการหลังลูกครึ่งฟิลิปปินส์-สแปนิช เข้ามาประสานงานกับ "มิกิ" ได้อย่างสุดยอด "ช้างศึกยุทธหัตถี" กลายเป็นทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่นที่สุดทีมหนึ่งในลีกไปแล้ว 5 นัดที่ผ่านมาเก็บคลีนชีทถึง 4 ครั้ง และแม้จะอายุ 35 ปีแล้วแต่ไม่ใช่ปัญหา อัลบาโร่ ยังมาเป็นผู้ทำประตูชัยให้ทีมเก็บ 3 แต้มเต็มเพื่อการอยู่รอดได้อีกด้วย

กองหลัง : ธนาเสฏฐ์ สุจริต (ชลบุรี เอฟซี)

"เต้" แบ็คขวาวัย 23 ปีโชว์ฟอร์มดีที่สุดในฤดูกาลด้วยการเติมเกมรุกริมเส้นตลอดทั้งเกม ช่วยให้ "ฉลามชล" บุกชนะ พีที ประจวบ ถึงถิ่น 2-0 ที่สำคัญเจ้าตัวเป็นคนแอสซิสต์ทั้งสองประตูซะด้วย ที่น่าเสียดายอย่างเดียวคือหากลดอายุลงไปได้ซักปี ก็คงมีโอกาสเล่นชุดซีเกมส์หรือโอลิมปิกไปแล้ว

กองกลาง : ศุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

"มิราเคิลเชค" โชว์ฟอร์มโดดเด่นอีกครั้งในการประสานงานกับน้องชายอย่าง "แบงค์ ศุภณัฏฐ์" เกมนี้วันเดอร์คิดเมืองไทยทั้งยิงประตูสุดสวยจากนอกกรอบ และแอสซิสต์ให้น้องทำประตูที่ 2 อย่างเข้าขารู้ใจ ต่อหน้าต่อตา อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทยที่เข้ามาดูเกมด้วย

กองกลาง : วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)

ฟอร์มคงเส้นคงวาเหมือนเดิมสำหรับจอมทัพวัยหนุ่มของ "ฉลามชล" เป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวยิงประตูให้ทีมได้ อีกทั้งมีบทบาทในการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมตลอดทั้งเกม จนช่วยให้ทีมบุกมาเก็บ 3 แต้มเต็มออกจากถิ่นสามอ่าว ได้อย่างงดงาม 2-0 

กองกลาง : เอกนิษฐ์ ปัญญา (เชียงราย ยูไนเต็ด) 

"บุ๊ค" เบิกร่องยิงประตูใส่ทีมเก่าด้วยความเฉียบขาดทั้งจังหวะจับบอลแรกและกระชากเข้าไปปิดสกอร์ นอกจากนี้ยังเคลื่อนที่ทำช่องสวยๆ ได้อีกหลายครั้ง น่าเสียดายที่ยังได้บอลจาก บิลล์ และ วิลเลี่ยม น้อยไปหน่อย ไม่เช่นนั้นจากช่องที่ดาวเตะวัย 19 ปีวิ่งทำทางสวยๆ น่าจะมีมากกว่า 1 ประตูด้วยซ้ำในเกมนี้ 

กองหน้า : ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

หลังจากผิดหวังกับผลงานของตัวเองในเกมบอลถ้วยกลางสัปดาห์ แต่ "แบงค์" เด็กหนุ่มวัยย่าง 17 ปีกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในบทบาทกองหน้าตัวจริง ต่อหน้าการสเกาท์ฟอร์มของ อากิระ นิชิโนะ และเมื่อได้รับโอกาสเขาก็ไม่ทำให้เสียเปล่า นัดนี้แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในการปิดสกอร์ไป 2 ลูก พร้อมทั้งยังมีบทบาทในการเคลื่อนที่และเก็บบอลในแดนหน้าได้เด่นยิ่งกว่าหัวหอกต่างชาติอย่าง ราสมุส ยอนส์สัน ด้วยซ้ำ

กองหน้า : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (เอสซีจี เมืองทองฯ)

"กัปตันเดอะแบก" ของทีมมีบทบาทโดดเด่นที่สุดในสนามตามเคย เกมนี้ทั้งยิงให้ทีมขึ้นนำ และแอสซิสต์สวยๆ ให้ อ่อง ตู ยิงประตูที่ 2 นอกจากนี้ยังคอยกระตุ้นเพื่อน และปั้นเกมตั้งแต่แดนตัวเองขึ้นมา ถือเป็นผู้เล่นที่ "กิเลนผยอง" จะขาดไปไม่ได้เลยและกำลังพาทีมขึ้นมาลุ้นกลับขึ้นหัวตารางอีกครั้ง

กองหน้า : ชนานันท์ ป้อมบุบผา (แบงค็อก ยูไนเต็ด)   

ในเกมที่ "แข้งเทพ" ตกเป็นรองถึง 2-0 "ทู" คือผู้พลิกสถานการณ์ให้ทีมกลับเข้าสู่เกมอีกครั้งด้วยการยิงตีไข่แตก และโหม่งบอลติดเซฟ แซมมวล ก่อนที่ โบนีญ่า จะตามซ้ำตีเสมอได้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นช่วงท้ายเกม กองหน้าวัย 27 ปีเกือบทำประตูชัยได้แต่ยังไปติดเซฟของแซมมวล ทำให้แบ่งกันไปทีมละคะแนน

เฮดโค้ช : เดนนิส อมาโต้ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)

เป็นเกมที่บีบหัวใจแฟนบอลทั้งสองทีมมากที่มาบข่า สเตเดี้ยม เพราะทั้ง พีทีที ระยอง และ ชัยนาท ต่างทำผลงานได้อย่างน่าชื่นชมทั้งคู่ การวางหมากของกุนซือเลือดดอยช์ เห็นได้เลยว่าเตรียมรับมือแดนกลางที่กำลังเข้าฝักของ "พลังเพลิง" มาเป็นอย่างดี ทั้งสหรัฐ กันยะโรจน์ และ พรปรีชา จารุนัย ถูกบีบไม่ให้โอกาสครองบอลง่ายๆ บวกกับแนวรับของ "นกใหญ่" ที่เล่นได้อย่างมีวินัย โดยเฉพาะ ปริญญา อู่ตะเภา ที่มาโหม่งประตูชัยช่วงท้ายเกม ทำให้ ชัยนาท กลับมาสู่เส้นทางเพื่ออยู่รอดปลอดภัยได้อีกครั้ง