:::     :::

THSPORT Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 23

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2562
3,311
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
รู้ก่อนใคร ลึกกว่าใคร ข่าวบอลไทย ต้องที่ THSPORT

11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 23

แผนการเล่น : 4-3-3

ประตู : ไมเคิ่ล ฟอลเคสการ์ด (แบงค็อก ยูไนเต็ด) 

เกมที่ "แข้งเทพ" เปิดบ้านเอาชนะ "นกใหญ่พิฆาต" 2-0 ดูจากสกอร์เหมือนจะง่าย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าทีมเยือนไม่มีโอกาส ทว่าเป็นเพราะนายด่านทีมชาติฟิลิปปินส์คนนี้นี่แหละ ที่เซฟแล้วเซฟเล่า เหนียวซะจนแข้งชัยนาทแทบจะท้อแท้กันเลยทีเดียวเพราะยิงยังไงก็ไม่ผ่านมือได้สักที

กองหลัง : นิติพงษ์ เสลานนท์ (การท่าเรือ เอฟซี)

สม่ำเสมอตลอด 90 นาที จะว่าไป "นนท์" คือแบ็คขวาที่ฟอร์มคงเส้นคงวาที่สุดคนหนึ่งในไทยลีกฤดูกาลนี้เลยด้วยซ้ำ นัดนี้วิ่งขึ้นลงตลอด และยังทำแอสซิสต์ให้ สุมัญญา ยิงประตูเบิกร่องได้อีกด้วย เด่นขนาดนี้ต่อหน้า อากิระ นิชิโนะ ซะด้วย ตำแหน่งแบ็คขวาทีมชาติไทยยุคใหม่ตอนนี้มีแววว่าเขาอาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือก

กองหลัง : ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (การท่าเรือ เอฟซี)

ยืนตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คจับคู่กับ เอเลียส ดอเลาะห์ ได้อย่างเนียนตา วันก่อนเพิ่งโทรถามโค้ชโชค ก็ได้ทราบสาเหตุว่าเพราะเอเลียส มีความแข็งแรงลูกกลางอากาศดี ดังนั้นจึงต้องมีคู่หูที่เล่นฉลาด,ลูกเท้าดี และ ทางบอลเยี่ยม ซึ่ง "ตั้ม" ตอบโจทย์อย่างมาก ในเกมกับ "กิเลนผยอง" เขาแทบไม่มีจังหวะผิดพลาด ทั้งการอ่านเกมและบิวดิ้งอัพบอลขึ้นมาจากแนวรับ สำหรับระบบแบ็คโฟร์เขาอาจจะเป็นคำตอบที่ดีของเซนเตอร์ทีมชาติไทย

กองหลัง : บรินเนอร์ เฮนริเก้ (เชียงราย ยูไนเต็ด)

ก่อนหน้านี้ตอนที่ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ ย้ายออกไป หลายคนเป็นห่วงว่า บรินเนอร์ จะทดแทนไม่ได้ แต่ตอนนี้ เชียงราย กำลังลุ้นแชมป์อย่างเข้มข้นโดยที่มีแนวรับที่เหนียวแน่นเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่ง บรินเนอร์ ตอบโจทย์ในเรื่องการป้องกันที่แข็งแกร่ง 3 แต้มที่คว้าได้จากการไปเยือน สมุทรปราการ นัดนี้ บรินเนอร์ เก็บบอลโด่งได้ทุกเม็ด แถมยังแอสซิสต์ให้เพื่อนได้อีก 1 ประตูด้วย

กองหลัง : เอฟสัน ปาตริซิโอ (เชียงใหม่ เอฟซี)

ช่วงหลังๆ ปราการหลังเลือดแซมบ้า ถูก "โค้ชอั๋น" จับขึ้นไปเล่นเกมรุกบ่อยครั้ง นัดนี้เป็นอีกเกมที่เขาทำประตูได้ จากการโหม่งลูกเปิดฟรีคิกของ อภิสิทธิ์ โสรฎา ในเกมป้องกันซึ่งควรจะเป็นหน้าที่หลักเขาก็ทำได้ดี ในการคุมพื้นที่ไม่ให้ผู้เล่น "ฉลามชล" ครอบครองเกมได้ง่ายๆ จนกระทั่งทีมเก็บ 3 แต้มสุดล้ำค่าเพื่อโอกาสอยู่รอดได้สำเร็จ

กองกลาง : จักรพันธ์ พรใส (ราชบุรี มิตรผล)

บวกเพิ่มไปอีก 1 แอสซิสต์ให้ ฆาเบียร์ ปาตีโญ่ ยิงเน้นๆ ต่อหน้าต่อตา อากิระ นิชิโนะ ทำให้สถิติรวมของ "บอล" ในการลงเล่นให้ ราชบุรี 6 นัด ทำได้ 1 ประตูและ 9 แอสซิสต์เข้าไปแล้ว ถือเป็นนักเตะไทยที่สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูได้มากที่สุดในไทยลีก การประสานงานร่วมกับ ฟิลิป โรลเลอร์ นัดนี้เข้าขาลงตัวอย่างมาก หากไม่มีชื่ออยู่ในทีมชาติไทยก็ถือว่าน่าแปลกใจมากทีเดียว

กองกลาง : เอกนิษฐ์ ปัญญา (เชียงราย ยูไนเต็ด)

"บุ๊ค" อาจถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญสำหรับ "กว่างโซ้ง" ในการลุ้นแชมป์ไทยลีกปีนี้ แม้วัยยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ฝีตีนในสนามนั้นสุดจัดปลัดบอก ความมั่นใจในการพาบอลไปข้างหน้า และความเด็ดขาดในการจบสกอร์ นี่มันเกินเด็กวัย 19 ปีไปไกลมาก ประตูที่ยิงได้ในเกมนี้ ทำให้เขาขึ้นไปนำดาวซัลโวนักเตะไทยที่จำนวน 8 ประตูเข้าไปแล้ว

กองกลาง : บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ เอฟซี) 

กลับมาเล่นด้วยความมั่นใจหลังจากที่ทีมทำผลงานได้ดีต่อเนื่องมาหลายนัด เกมนี้ลากเลื้อยระเบิดระเบ้อมาก มีส่วนร่วมกับเกมรุกทั้งการโต้กลับและจังหวะครองเกมดึงเวลา มีประโยชน์กับทีมมากยามที่บอลอยู่ที่เท้าของเขา รับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ประจำเกมนี้ไปครอง เพราะสร้างปัญหาให้แนวรับฝั่งขวาของ "กิเลนผยอง" ได้ตลอดทั้งเกม 

กองหน้า : วิลเลี่ยม เฮนริเก้ (เชียงราย ยูไนเต็ด)

เขาคนนี้คือนักเตะที่เลี้ยงกินตัวได้โหดที่สุดในไทยลีกก็ว่าได้ ไม่ว่าจะอยู่ซ้ายหรือขวา ตัวประกบปวดเศียรเวียนเกล้ากันไปหมดเพราะจี๊ดจ๊าดดีเหลือเกิน นัดนี้เหมายิงคนเดียว 2 ประตู ด้วยความเยือกเย็นและเทคนิคอันยอดเยี่ยมตามสไตล์แซมบ้า 

กองหน้า : อมาดู อ๊วตตาร่า (นครราชสีมา มาสด้า)

มีรายงานก่อนเกมมาว่า อมาดู ไม่สมบูรณ์เต็มร้อย เพราะกรำศึกหนักมาตลอดโดยแทบไม่ได้พัก แต่พอลงสนาม แข้งจอมเทคนิคชาวไอวอรี่ โคสต์ ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงอาการเหนื่อยล้า จังหวะทำเกมรุกเขาวิ่งเต็มสปีดทุกครั้ง สร้างสรรค์โอกาสทำประตูให้เพื่อนได้มากมาย และนัดนี้ยิงไปอีก 1 ประตู น่าเสียดายที่เกมรับของ สุพรรณบุรี เหนียวจริงๆ จึงทำให้ "สวาดแคท" พลาดคว้า 3 แต้มไปอีกครั้ง 

กองหน้า : วานเดอร์ หลุยส์ (แบงค็อก ยูไนเต็ด)   

ในช่วงที่ เนลสัน โบนีญ่า ไม่พร้อมลงสนาม วานเดอร์ หลุยส์ ก้าวขึ้นมาเป็นความหวังอันดับหนึ่งในการผลิตสกอร์ ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เกมนี้ปั่นป่วนแนวรับ ชัยนาท ได้ตลอด และยิงประตูสำคัญตอกย้ำชัยชนะให้ทีมได้สำเร็จ น่าเสียดายที่มีทั้งจังหวะยิงชนคานรวมถึงที่หลุดกรอบไปแบบได้เสียวอีกหลายครั้ง ไม่งั้นเขาคงทำได้มากกว่า 1 ประตู

เฮดโค้ช : โชคทวี พรหมรัตน์ (การท่าเรือ เอฟซี)

คุมทีมอย่างเป็นทางการมา 5 นัดรวมทุกรายการ "โค้ชโชค" ทำให้ "สิงห์เจ้าท่า" ไร้พ่ายมาทุกเกม แถมยังชนะได้ถึง 4 นัด การตัดสินใจวางเกมที่ใช้ ธนบูรณ์ เป็นเซนเตอร์คู่กับ เอเลียส ดอเลาะห์ รวมถึงการเลือกใช้ เซร์คิโอ ซัวเรซ เป็นหัวหอกตัวเป้าก่อนกองหน้าอาชีพอย่าง โชซิมาร์ และ โรลันโด้ แบล็คเบิร์น แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวเพื่อรักษาเชปของทีมเอาไว้โดยไม่ยึดติดกับแข้งต่างชาติ เกมนี้วางแผนได้ละเอียด ปิดโอกาสไม่ให้ เฮแบร์ตี้ ทำเกมหรือหาโอกาสยิงได้ถนัด และในที่สุด "โค้ชโชค" ก็พา การท่าเรือ ดับอาถรรพ์เอาชนะ "กิเลนผอง" ที่แพท สเตเดี้ยม ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด