จากกรณีที่สโมสร ตราด เอฟซี ร้องเรียนมายังสมาคมฯ กล่าวหาว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งอยู่ระหว่างการลงโทษห้ามทำหน้าที่ ขณะที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ มีการใช้วิทยุสื่อสารและโทรศัพท์สมาร์ทโฟน โดยเชื่อว่าเป็นการสั่งการไปยังม้านั่งสำรองในการวางแผนเกมการเล่นให้กับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีเพียงภาพถ่ายหัวหน้าผู้ฝึกสอนกำลังใช้วิทยุสื่อสารและโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเท่านั้น โดยยังไม่ได้ข้อยุติว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนดังกล่าวได้ติดต่อสื่อสารกับใคร เรื่องอะไร อย่างไร อันเกี่ยวกับที่ถูกลงโทษอันเป็นองค์แห่งความผิดหรือไม่ 

ทางทีมข่าว THSPORT ได้สอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้องในเรื่องของกฏระเบียบการแข่งขัน ได้ความว่า เจ้าหน้าที่ใดๆก็ตามที่ถูกโทษลงแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขัน จะไม่สามารถใช้เครื่องมือสื่อสารติดต่อกับทีมงานภายในซุ้มม้านั่งสำรองได้ ซึ่งในเรื่องนี้ทางคณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาทเตรียมเข้าหารืออีกครั้ง โดยเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล

ส่วนที่ต่างประเทศอย่างฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่กุนซือหลายรายที่โดนแบนสามารถใช้เครื่องมือติดต่อสื่อสารกับทีมงานแม้จะถูกแบนจากข้างสนามนั้น สามารถทำได้เนื่องจากแต่ละภูมิภาคใช้กฏไม่เหมือนกัน อย่างกฏของฟีฟ่าที่ออกมาใหม่นั้นสามารถอนุญาติให้ทำได้ ขณะที่ของไทยใช้กฏของเอเอฟซีอยู่ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถทำในลักษณะดังกล่าวได้

ซึ่งกรณีของ โบซิดาร์ บันโดวิช หากมีความผิดจริงถือเป็นการทำผิดตามระเบียบบังคับข้อ 3.24 ในระหว่างการแข่งขัน ห้ามนักกีฬาฟุตบอล และ/หรือ เจ้าหน้าที่ทีม ใช้อุปกรณ์เครื่องมือสื่อสา รในบริเวณเขต เทคนิคและสนามแข่งขัน เว้นแต่เป็นกรณีที่เจ้าหน้า ที่ทีม ใช้เครื่องมือสื่อสาร เพื่อเหตุผลทางด้านเทคนิคใน การวางแผนการ เล่น หรือ เพื่อการรักษาพยาบาลเท่านั้ น โดยอุปกรณ์ที่ใช้ให้เป็นไปต ามกฎกติกา THE LAWS OF THE GAME หากฝ่าฝืน องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของผู ้กระทําผิดจะถูกปรับเงิน ตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท